คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 513/2523

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1359 ให้อำนาจเจ้าของ รวมใช้สิทธิต่อสู้บุคคลภายนอกอันหมายถึงฟ้องขับไล่ด้วยหาได้หมายความเพียงยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้เมื่อถูกฟ้องอย่างเดียวไม่
การเข้าอยู่ในห้องพิพาทโดยได้ออกเงินจำนวนหนึ่งให้แก่ผู้ก่อสร้างเพื่อตนจะได้เข้าทำสัญญาเช่ากับเจ้าของห้องพิพาทหาใช่เป็นการช่วยค่าก่อสร้างห้องพิพาทไม่สัญญาเช่าที่ทำกับเจ้าของห้องพิพาทจึงไม่เป็นสัญญาต่างตอบแทนยิ่งกว่าสัญญาเช่าธรรมดาและเมื่อสัญญาดังกล่าวไม่ได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ จึงใช้บังคับได้เพียง 3 ปี

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ขับไล่ จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ตามฎีกาของจำเลยข้อ 1 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1359 บัญญัติว่า “เจ้าของรวมคนหนึ่ง ๆ อาจใช้สิทธิอันเกิดแต่กรรมสิทธิ์ครอบไปถึงทรัพย์สินทั้งหมดเพื่อต่อสู้บุคคลภายนอก” บทบัญญัติดังกล่าวมีความหมายว่า ใช้สิทธิครอบงำทรัพย์สินทั้งหมดยันบุคคลภายนอกอันหมายถึงฟ้องและยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้เมื่อถูกฟ้อง โดยไม่มีข้อจำกัด หาได้หมายความเพียงยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้เมื่อถูกฟ้องอย่างเดียว ดังฎีกาของจำเลยไม่ ซึ่งศาลฎีกาเคยพิพากษาไว้เป็นแบบอย่างแล้วตามคำพิพากษาฎีกาที่ 598/2518 คดีระหว่าง นางเจียร ณ นครโจทก์ นายจรูญ บุรินทร์โกษฐ์ จำเลย ฎีกาจำเลยข้อนี้ฟังไม่ขึ้น

ฎีกาจำเลยข้อ 2 โจทก์จำเลยแถลงรับข้อเท็จจริงตามรายงานกระบวนพิจารณาลงวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2521 ว่า “การที่นางสายหยุดยศวิไล เข้าอยู่ในห้องพิพาทก็โดยได้ออกเงินจำนวนหนึ่งให้แก่ห้างหุ้นส่วนจำกัด เลี่ยงซินล้ง ผู้ก่อสร้างห้องพิพาท ซึ่งเป็นคู่สัญญากับเจ้าของเดิมห้องพิพาท เป็นการตอบแทนอันเป็นผลให้ได้เข้าทำสัญญาเช่ากับเจ้าของเดิมห้องพิพาท” ข้อความดังกล่าวฟังได้เพียงว่า นางสายหยุด ยศวิไลให้เงินแก่ผู้ก่อสร้างห้องพิพาทเพื่อตนจะได้เข้าทำสัญญาเช่ากับคุณหญิงขนิษฐาสาลีรัฐวิภาค หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง เพื่อให้ผู้ก่อสร้างพาไปทำสัญญาเช่าห้องพิพาทกับคุณหญิงขนิษฐา สาลีรัฐวิภาค นั่นเอง หาใช่นางสายหยุด ยศวิไลให้เงินแก่คุณหญิงขนิษฐา สาลีรัฐวิภาค เป็นการช่วยค่าก่อสร้างห้องพิพาทไม่ดังนั้นสัญญาเช่าที่นางสายหยุด ยศวิไล ทำกับคุณหญิงขนิษฐา สาลีรัฐวิภาค จึงไม่เป็นสัญญาต่างตอบแทนยิ่งกว่าสัญญาเช่าธรรมดา

เมื่อฟังไม่ได้ว่าเป็นสัญญาต่างตอบแทนยิ่งกว่าสัญญาเช่าธรรมดาและสัญญาดังกล่าวไม่ได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ก็ใช้บังคับได้เพียง 3ปี ปรากฏว่า นางสายหยุด ยศวิไล อาศัยอยู่ในห้องพิพาทตามสัญญาเช่ามาเป็นเวลาเกินกว่า 3 ปีแล้ว ครั้นนางสายหยุด ยศวิไล ถึงแก่กรรม โจทก์ก็บอกกล่าวจำเลยและบริวารให้ออกจากห้องพิพาท จำเลยและบริวารซึ่งอาศัยสิทธิของนางสายหยุด ยศวิไล จึงไม่มีสิทธิอยู่ในห้องพิพาทต่อไป”

พิพากษายืน

Share