แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยยื่นฎีกาไว้ เนื่องจากคดีนี้กับคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 5808/2524 ของศาลชั้นต้น โจทก์ทั้งสองคดีเป็นผู้เสียหายร่วมกันข้อหาและความผิดเดียวกัน จำเลยคนเดียวกัน ซึ่งคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 5808/2529 ของศาลชั้นต้น จำเลยมีโอกาสนำพยานเข้าสืบต่อสู้คดีแต่ในคดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งตัดพยานจำเลย จำเลยจึงขออ้างสำนวนคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 5808/2529 ของศาลชั้นต้น พร้อมทั้งคำพยานฝ่ายจำเลยทุกปากเพื่อนำมาประกอบการพิจารณาในคดีนี้ด้วยปรากฏตามบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมที่แนบมาพร้อมคำร้องนี้ โปรดอนุญาต
หมายเหตุ โจทก์ยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 175,177,91,90,59
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีมีมูล ให้ประทับฟ้องศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 175 จำคุก 1 ปี และตามมาตรา 177 จำคุก 1 ปี เป็นความผิดหลายกรรมลงโทษทุกกรรม รวมจำคุก 2 ปี
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยผิดฐานเบิกความเท็จตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177 วรรค 2 ฐานฟ้องเท็จ จำคุก 6 เดือนฐานเบิกความเท็จ จำคุก 6 เดือน รวม 2 กระทง จำคุก 12 เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา (อันดับ 84)
จำเลยยื่นคำร้องดังกล่าว (อันดับ 108)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ให้เรียกสำนวนคดีอาญาหมายเลขดำที่ 6622/2528 หมายเลขแดงที่ 5808/2529 ของศาลอาญาธนบุรีมาประกอบการพิจารณาของศาลฎีกา