คำสั่งคำร้องที่ 1107/2535

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า คดีต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 ไม่รับฎีกาของโจทก์
โจทก์เห็นว่า คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์ ใน ข้อกฎหมายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และมาตรา 200 วรรคหนึ่ง และศาลอุทธรณ์ได้มีคำพิพากษายกฟ้องโจทก์ โดยอาศัย ข้อกฎหมายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) ซึ่งเป็นข้อกฎหมายที่ศาลอุทธรณ์หยิบยกขึ้นมาพิจารณาคดีเพิ่ม ขึ้นใหม่ โจทก์จึงฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายดังกล่าวได้ โปรดมี คำสั่งให้รับฎีกาของโจทก์ไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ จำเลยได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 130)
โจทก์โจทก์ขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมาย อาญา มาตรา 157 และมาตรา 200 วรรคหนึ่ง
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว มีคำสั่งให้ประทับฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 126)
โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 127)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 220 ที่แก้ไขแล้ว ห้ามมิให้คู่ความฎีกาในคดีซึ่งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์เห็นได้ว่าเป็น การห้ามฎีกาทั้งในปัญหาข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ที่ศาลชั้นต้น สั่งไม่รับฎีกาของโจทก์ชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง

Share