แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
จำเลยที่ 2 กับพวกได้ร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราหญิงเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2521 แล้วจำเลยที่ 2 กับพวกยังควบคุมตัวผู้เสียหายไว้ตลอดเวลามิได้ปล่อยให้เป็นอิสระ แม้จำเลยที่ 2 จะได้ข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายต่ออีกในคืนวันที่ 4 ติดต่อกับคืนวันที่ 5 มกราคม 2521 ก็ถือได้ว่าเป็นการกระทำที่ต่อเนื่องจากเจตนาเดิม เป็นความผิดกรรมเดียวโจทก์ฟ้องซ้ำคดีเดิมไม่ได้
ย่อยาว
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าจำเลยที่ 1 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276 วรรคสอง, 83 ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 ลงวันที่ 21 พฤศจิกายน 2514 ข้อ 7 จำคุกและเพิ่มโทษเป็น 13 ปี 4 เดือน แต่คงยกฟ้องจำเลยที่ 2 โจทก์และจำเลยที่ 1 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ส่วนที่โจทก์ฎีกาขึ้นมาว่าการกระทำความผิดของจำเลยที่ 2 เป็นการกระทำความผิดต่างกรรมต่างวาระกับคดีอาญาหมายเลขแดงของศาลอาญาที่ 7124/2522 และฟ้องของโจทก์ไม่เป็นฟ้องซ้ำนั้นพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่าจำเลยที่ 2 กับพวกได้ร่วมกันข่มขืนกระทำชำเรานางสาววาสนา ไฮ้สุวรรณ ที่พุ่มไม้ในสวนเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2521 แล้ว จำเลยที่ 2 กับพวกก็ยังควบคุมตัวผู้เสียหายไว้ตลอดเวลา มิได้ปล่อยให้เป็นอิสระ แม้จำเลยที่ 2 จะได้ข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายต่ออีกที่สะพานไม้ในคืนวันที่ 4 ติดต่อกับคืนวันที่ 5 มกราคม 2521 ตามฟ้องของโจทก์ในคดีนี้ก็ถือได้ว่าเป็นการกระทำที่ต่อเนื่องมาจากเจตนาเดิมซึ่งถือได้ว่าเป็นกรรมเดียวกับที่จำเลยที่ 2 ถูกศาลอาญาพิพากษาลงโทษจำคุกไปแล้ว ที่ศาลอุทธรณ์ฟังว่าฟ้องของโจทก์คดีนี้เป็นฟ้องซ้ำจึงต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกาแล้ว”
พิพากษายืน