คำวินิจฉัยที่ 7/2544

แหล่งที่มา : ส่วนเลขานุการคณะกรรมการวินิจฉัยฯ

ย่อสั้น

ไม่มีย่อสั้น

ย่อยาว

(สำเนา)

คำวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล คณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล
ที่ ๗/๒๕๔๔
วันที่ ๑๘ ธันวาคม ๒๕๔๔

เรื่อง เขตอำนาจศาลเกี่ยวกับพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล (ฉบับที่ ๓)
พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง ประกอบกับพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลพุทธศักราช ๒๔๘๒ มาตรา ๕๗ และ มาตรา ๕๘ วรรคหนึ่ง

ศาลปกครองกลาง
ระหว่าง
ศาลจังหวัดปัตตานี

การส่งเรื่องต่อคณะกรรมการ
ศาลปกครองกลางโดยสำนักงานศาลปกครองได้ส่งเรื่องมาให้คณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาลพิจารณาวินิจฉัยตามมาตรา ๑๒ วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล พ.ศ. ๒๕๔๒ ซึ่งเป็นกรณีที่ศาลหนึ่งไม่รับฟ้อง เพราะเห็นว่าคดีอยู่ในเขตอำนาจของอีกศาลหนึ่ง เมื่อมีการฟ้องคดีต่ออีกศาลหนึ่งแล้ว ศาลดังกล่าวเห็นว่าคดีนั้นไม่อยู่ในเขตอำนาจเช่นกัน ให้ศาลนั้นส่งเรื่องไปให้คณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาลพิจารณาวินิจฉัยชี้ขาด

ข้อเท็จจริงในคดี
เมื่อวันที่ ๒๓ มิถุนายน ๒๕๔๔ ได้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลไทรทองอำเภอไม้แก่น จังหวัดปัตตานี โดยนายเจะอูเส็ง สาเลง ผู้ร้องเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลไทรทอง หน่วยเลือกตั้งที่ ๓ หมู่ที่ ๓ ตำบลไทรทอง เครื่องหมายประจำตัวหมายเลข ๓ ปรากฏว่า องค์การบริหารส่วนตำบลไทรทองได้ประกาศผลการเลือกตั้งให้ผู้สมัครเครื่องหมายประจำตัว หมายเลข ๑ และหมายเลข ๒ เป็นผู้ได้รับเลือกตั้ง ผู้ร้องจึงได้ยื่นคำร้องคัดค้านการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลไทรทองต่อศาลจังหวัดปัตตานี อ้างว่า เจ้าพนักงานผู้ดำเนินการเลือกตั้ง คณะกรรมการตรวจคะแนน และ เจ้าหน้าที่คะแนน ประจำหน่วยเลือกตั้งที่ ๓ หมู่ที่ ๓ ตำบลไทรทอง อำเภอไม้แก่น จังหวัดปัตตานี ได้กระทำการอันมิชอบด้วยกฎหมาย โดยเมื่อเสร็จสิ้นการลงคะแนนแล้วคณะกรรมการตรวจคะแนนได้เปิดหีบบัตรแล้วหยิบบัตรออกมาเปิดอ่านคะแนนทันที โดยมิได้มีการนับบัตรและตรวจบัตรเพื่อวินิจฉัยว่าบัตรเลือกตั้งใดเป็นบัตรเสียแล้วทำการสลักหลังและแยกไว้ และเจ้าหน้าที่คะแนนได้อ่านคะแนนโดยไม่เปิดเผยไม่ได้แสดง บัตรเลือกตั้งให้คณะกรรมการตรวจคะแนนหรือตัวแทนผู้สมัครได้เห็นเพื่อตรวจสอบว่า การอ่านหมายเลขประจำตัวผู้สมัครตรงกับเครื่องหมายประจำตัวผู้สมัครที่ได้ทำไว้ในบัตรเลือกตั้งหรือไม่และการวินิจฉัยบัตรเลือกตั้งว่าบัตรเลือกตั้งใดเป็นบัตรดีหรือบัตรเสีย เจ้าหน้าที่คะแนนเป็นผู้วินิจฉัยชี้ขาดเพียงคนเดียว อันเป็นการมิชอบ ตามพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล(ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๔๒ พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล พุทธศักราช ๒๔๘๒ประกอบกับกฎกระทรวงมหาดไทย ออกตามความในพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล พุทธศักราช ๒๔๘๒ จึงขอให้ศาลมีคำสั่งว่า การเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลไทรทองหน่วยเลือกตั้งที่ ๓ หมู่ที่ ๓ ตำบลไทรทอง อำเภอไม้แก่น จังหวัดปัตตานี เมื่อวันที่๒๓ มิถุนายน ๒๕๔๔ ไม่มีผู้หนึ่งผู้ใดได้รับการเลือกตั้งโดยชอบและจัดให้มี การเลือกตั้งใหม่ ศาลจังหวัดปัตตานีเห็นว่า กรณีเป็นข้อพิพาทระหว่างเอกชนกับหน่วยงานราชการส่วนภูมิภาคหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ในบังคับบัญชาหรือกำกับดูแลของรัฐบาล ซึ่งเป็นข้อพิพาทอันเนื่องมาจากการกระทำของเจ้าหน้าที่ของรัฐ คดีจึงอยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลปกครอง ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๔๐ มาตรา ๒๗๖ วรรคหนึ่ง ศาลยุติธรรมไม่อาจรับไว้พิจารณาได้ตามมาตรา ๒๗๑ จึงมีคำสั่งไม่รับคำร้อง
ผู้ร้องจึงได้ยื่นฟ้องคดีต่อศาลปกครองกลางเพื่อคัดค้านการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลไทรทอง ซึ่งศาลปกครองกลางเห็นว่า เรื่องดังกล่าวไม่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลปกครอง เนื่องจากมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่งแห่งพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๔๒ ประกอบกับมาตรา ๕๘ วรรคหนึ่งแห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล พ.ศ. ๒๔๘๒ กำหนดให้การพิจารณาคำร้องคัดค้านการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล ซึ่งเป็นวิธีพิจารณาคดีใน ศาลยุติธรรมจึงเห็นว่าศาลที่มีอำนาจพิจารณาคำร้องคัดค้านการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลคือศาลยุติธรรม ศาลปกครองกลางไม่มีอำนาจรับคำฟ้องนี้ไว้พิจารณา

คำวินิจฉัย
ปัญหาที่ต้องพิจารณา คือ ศาลชั้นต้นที่มีเขตอำนาจในการพิจารณาคำร้องคัดค้านการเลือกตั้งตามพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๔๒มาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง ประกอบกับพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล พุทธศักราช๒๔๘๒ มาตรา ๕๗ และมาตรา ๕๘ วรรคหนึ่ง หมายความถึง ศาลยุติธรรมหรือศาลปกครอง
คณะกรรมการพิจารณาแล้ว เห็นว่า การคัดค้านการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลมีลักษณะเป็นการคัดค้านคำสั่งทางปกครอง เมื่อผู้ร้องอ้างว่าคณะกรรมการตรวจคะแนนปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือปฏิบัติไม่ถูกต้องตามระเบียบและกฎหมายที่กำหนดไว้ จึงเป็นกรณีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๙ วรรคหนึ่ง (๑) ซึ่งพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. ๒๕๓๗ มาตรา ๔๕วรรคสาม บัญญัติว่า “หลักเกณฑ์และวิธีการสมัครรับเลือกตั้งและการเลือกตั้งให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น” แต่ปัจจุบันยังไม่มีกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นใช้บังคับ กรณีจึงเป็นไปตามพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๒๕ วรรคหนึ่งที่บัญญัติว่า “ในระหว่างที่ไม่มีกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น ให้นำกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลมาใช้บังคับกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลโดยอนุโลม” ดังนั้น การเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลจึงต้องนำกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลมาใช้บังคับโดยอนุโลม ซึ่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล พุทธศักราช ๒๔๘๒ มาตรา ๕๗ บัญญัติว่า “ภายในสิบห้าวัน นับตั้งแต่เทศบาลประกาศผลของการเลือกตั้ง ผู้มีสิทธิเลือกตั้งไม่น้อยกว่าสิบคนก็ดี ผู้สมัครคนใดก็ดี ในเขตเลือกตั้งใด เห็นว่าการเลือกตั้งในเขตนั้นเป็นไปโดยมิชอบ มีสิทธิยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นซึ่งเขตเลือกตั้งนั้นอยู่ในเขตอำนาจ เพื่อขอให้สั่งว่าบุคคลผู้หนึ่งผู้ใดมิได้รับเลือกตั้งโดยชอบ และหรือว่าผู้ใดได้รับเลือกตั้งโดยชอบ หรือว่าไม่มีบุคคลผู้หนึ่งผู้ใดได้รับเลือกตั้งโดยชอบ” และมาตรา ๕๘ วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า “เมื่อศาลได้รับคำร้องคัดค้านแล้วให้ดำเนินการพิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งโดยเร็ว…” เป็นการบัญญัติให้ศาลชั้นต้นที่พิจารณาคำร้องคัดค้านการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลต้องดำเนินการพิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง อันเป็นวิธีพิจารณาคดีในศาลยุติธรรม ซึ่งวิธีพิจารณาคดีถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การดำเนินกระบวนพิจารณาของศาลเป็นไปตามความมุ่งหมายของกฎหมาย หากให้ศาลปกครองต้องตัดสินคดีปกครองโดยใช้วิธีพิจารณาความแพ่งแทนที่จะใช้วิธีพิจารณาคดีปกครองย่อมจะไม่สอดคล้องกับระบบและความมุ่งหมายของกฎหมาย ดังนั้น ศาลยุติธรรมจึงเป็นศาลที่มีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีคัดค้านการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลตามพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง ประกอบกับพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล พุทธศักราช ๒๔๘๒ มาตรา ๕๘ วรรคหนึ่ง ตามนัยคำวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล ที่ ๑/๒๕๔๔
จึงวินิจฉัยชี้ขาดว่า คำร้องคัดค้านการเลือกตั้งสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลไทรทอง อำเภอไม้แก่น จังหวัดปัตตานี ของนายเจะอูเส็ง สาเลง ผู้ร้อง อยู่ในเขตอำนาจของศาลจังหวัดปัตตานี

(ลงชื่อ) สันติ ทักราล (ลงชื่อ) เฉลิมชัย เกษมสันต์
(นายสันติ ทักราล) (หม่อมหลวงเฉลิมชัย เกษมสันต์)
ประธานศาลฎีกา กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของศาลยุติธรรม

(ลงชื่อ) อักขราทร จุฬารัตน (ลงชื่อ) โภคิน พลกุล
(นายอักขราทร จุฬารัตน) (นายโภคิน พลกุล)
ประธานศาลปกครองสูงสุด กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของศาลปกครอง

(ลงชื่อ) พลโท สมัยรบ สุทธิวาทนฤพุฒิ (ลงชื่อ) พลโท อาชวัน อินทรเกสร
(สมัยรบ สุทธิวาทนฤพุฒิ) (อาชวัน อินทรเกสร)
หัวหน้าสำนักตุลาการทหาร กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของศาลทหาร

(ลงชื่อ) พรชัย รัศมีแพทย์
(นายพรชัย รัศมีแพทย์)
กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ

สำเนาถูกต้อง

(นางอุษณี ฉันทวรคุณ)
นิติกร 6 ว

Share