คำวินิจฉัยที่ 26/2547

แหล่งที่มา : ส่วนเลขานุการคณะกรรมการวินิจฉัยฯ

ย่อสั้น

ไม่มีย่อสั้น

ย่อยาว

(สำเนา)

คำวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล คณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล
ที่ ๒๖/๒๕๔๗

วันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๔๗

เรื่อง เขตอำนาจศาลเกี่ยวกับสิทธิในที่ดิน

ศาลปกครองกลาง
ระหว่าง
ศาลจังหวัดนครสวรรค์

การส่งเรื่องต่อคณะกรรมการ
ศาลปกครองกลางโดยสำนักงานศาลปกครองส่งเรื่องให้คณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาลพิจารณาวินิจฉัยชี้ขาดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๑๐ วรรคหนึ่ง (๓) ซึ่งเป็นกรณีที่คู่ความฝ่ายที่ถูกฟ้องโต้แย้งเขตอำนาจศาลที่รับฟ้องคดี และศาลที่ส่งความเห็นและศาลที่รับความเห็นมีความเห็นแตกต่างกันในเรื่องเขตอำนาจศาลในคดีนั้น

ข้อเท็จจริงในคดี
เมื่อวันที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๔๕ บริษัท นิวยอร์คหินอ่อนและแกรนิต จำกัด ได้ยื่นฟ้องเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดนครสวรรค์ สาขาชุมแสง ที่ ๑ นายวันชัย เหลืองหิรัญ ที่ ๒ ผู้ถูกฟ้องคดีต่อศาลปกครองกลาง เป็นคดีหมายเลขดำที่ ๑๖๘๖/๒๕๔๕ ความว่า ผู้ฟ้องคดีเป็นเจ้าของที่ดินและครอบครองที่ดินไม่มีหลักฐาน ตั้งอยู่ที่หมู่ ๔ ตำบลหนองกลับ อำเภอหนองบัว จังหวัดนครสวรรค์ จำนวน ๒ แปลง เนื้อที่ประมาณ ๑๐ ไร่ และ ๕๕ ไร่ โดยซื้อมาจากนายสวิง ฉ่ำน้อยและนายอ่อน มากน้อย เมื่อวันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๓๒ ได้ครอบครองและทำประโยชน์เรื่อยมาต่อมา ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ ได้บุกรุกรื้อรั้วลวดหนามและนำเจ้าหน้าที่ของผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ มารังวัดเพื่อออกโฉนด โดยอ้างว่าซื้อที่ดินแปลงพิพาทจาก นางวันเพ็ญ โฆษิตานนท์ ผู้ฟ้องคดีได้คัดค้านการรังวัดและการออกโฉนดที่ดินดังกล่าว ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ จึงทำการสอบสวนและเปรียบเทียบแล้วเห็นว่าผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ มีสิทธิครอบครองในที่ดินดีกว่าจึงมีคำสั่ง ที่ ๑๕/๒๕๔๕ ลงวันที่ ๑๙ กรกฎาคม๒๕๔๕ ให้ออกโฉนดที่ดินแก่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ ตามมาตรา ๖๐ แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายที่ดิน (ฉบับที่ ๔ ) พ.ศ. ๒๕๒๘ ผู้ฟ้องคดีเห็นว่า คำสั่งให้ออกโฉนดที่ดินของผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ เป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะผู้ฟ้องคดีซื้อที่ดินพิพาทมาโดยสุจริต ครอบครอง และทำประโยชน์โดยเปิดเผย จึงขอให้ศาลพิพากษาเพิกถอนคำสั่งของผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ที่ให้ออกโฉนดที่ดิน และมีคำสั่งให้ผู้ฟ้องคดีเป็นผู้มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทและให้เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดนครสวรรค์ สาขาชุมแสง ออกโฉนดที่ดินโดยมีชื่อผู้ฟ้องคดีเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์
ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ให้การว่า ได้ทำการสอบสวนเปรียบเทียบแล้วเห็นว่าผู้ถูกฟ้องคดีที่๒ มีสิทธิครอบครองในที่ดินพิพาทดีกว่าผู้ฟ้องคดี จึงมีคำสั่งให้ออกโฉนดที่ดินแก่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ตามคำขอ ส่วนผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ ให้การว่าได้ขอออกโฉนดตามหลักฐาน ส.ค. ๑ ซึ่งแจ้งการครอบครองที่ดินพิพาทไว้ ตั้งแต่วันที่ ๑๓ เมษายน ๒๔๙๖ และได้ทำประโยชน์ต่อเนื่องมาโดยตลอดคำสั่งให้ออกโฉนดของ ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ดังกล่าว ชอบด้วยกฎหมายแล้วและผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ ยื่นคำร้องลงวันที่ ๑๘ เมษายน ๒๕๔๖ โต้แย้งเรื่องเขตอำนาจศาล โดยเห็นว่าเป็นคดีพิพาทกันในเรื่องกรรมสิทธิ์ในที่ดิน คดีจึงอยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลยุติธรรม

ความเห็นระหว่างศาล
ศาลปกครองกลางพิจารณาแล้วเห็นว่า คดีนี้ผู้ฟ้องคดีฟ้องว่าผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ได้อาศัยอำนาจตามมาตรา ๖๐ แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ออกคำสั่งสำนักงานที่ดินจังหวัดนครสวรรค์ สาขาชุมแสง ให้ออกโฉนดที่ดินแปลงพิพาทโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เจตนาของผู้ฟ้องคดีมีความประสงค์ให้ ศาลวินิจฉัยความชอบของการออกคำสั่งทางปกครองและให้เพิกถอนคำสั่งดังกล่าว เนื่องจากทำการสอบสวนไม่ถูกต้อง หรือไม่รอบคอบและไม่เป็นไปตามกระบวน การของกฎหมาย ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตามมาตรา ๓ แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ เมื่อได้ออกคำสั่งให้ออกโฉนดที่ดินแปลงพิพาทแก่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ ทำให้ผู้ฟ้องคดีเสียสิทธิในที่ดิน เป็นคำสั่งทางปกครองที่มีผลเป็นการก่อนิติสัมพันธ์ขึ้นระหว่างบุคคลในอันที่จะก่อ เปลี่ยนแปลง สถานภาพของสิทธิหน้าที่ของผู้ฟ้องคดีตามมาตรา ๕ แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙ ซึ่งการที่จะออกคำสั่งทางปกครองได้นั้นจะต้องปฏิบัติตามขั้นตอนตามที่กฎหมาย กฎ ระเบียบที่เกี่ยวข้องกำหนดไว้โดยครบถ้วน ดังนั้นคดีนี้จึงเป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับการที่เจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือไม่ถูกต้องตามกฎหมาย หรือละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติตามมาตรา ๙ วรรคหนึ่ง (๑) และ (๒) แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.๒๕๔๒ อันอยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลปกครอง
ศาลจังหวัดนครสวรรค์พิจารณาแล้วเห็นว่า คดีนี้ผู้ฟ้องคดีฟ้องว่าผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ มีคำสั่งสำนักงานที่ดินจังหวัดนครสวรรค์ สาขาชุมแสง ที่ ๑๕/๒๕๔๕ ลงวันที่ ๑๙ กรกฎาคม ๒๕๔๕ให้ออกโฉนดที่ดินแก่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย การที่จะพิจารณาว่าคำสั่งของผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ศาลจำต้องพิจารณาให้ได้ความก่อนว่า ผู้ฟ้องคดีเป็นผู้มีสิทธิครอบครองในที่ดินพิพาทหรือไม่ อันเป็นประเด็นหลักเสียก่อน ซึ่งการที่จะพิจารณาเกี่ยวกับสิทธิครอบครองในที่ดินอันเป็นสิทธิในทรัพย์สินนั้นจำต้องพิจารณาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ ๔ ประกอบประมวลกฎหมายที่ดินที่บัญญัติเรื่องนั้นไว้เป็นพิเศษซึ่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๙ มิได้กำหนดให้ศาลปกครองมีอำนาจในการพิจารณาพิพากษาคดีเกี่ยวกับสิทธิในทรัพย์สินเมื่อมีการโต้แย้งคัดค้านการขอออกโฉนดที่ดิน จึงเป็นคดีเกี่ยวกับสิทธิในที่ดินของเอกชน อันอยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลยุติธรรม ตามนัยคำวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาลที่ ๑๘/๒๕๔๖

คำวินิจฉัย
ปัญหาที่จะต้องพิจารณา คือ คดีฟ้องขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งของสำนักงานที่ดินเรื่องให้ออกโฉนดที่ดิน และให้มีคำสั่งว่าผู้ฟ้องคดีเป็นผู้มีกรรมสิทธิ์ในที่ดิน อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลยุติธรรมหรือศาลปกครอง
คณะกรรมการพิจารณาแล้วเห็นว่า ข้อเท็จจริงตามคำฟ้องและคำให้การสรุปได้ว่าผู้ฟ้องคดีกล่าวอ้างว่าตนเองเป็นเจ้าของที่ดินพาท ต่อมาผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ ไปขอออกโฉนดที่ดินพิพาทต่อ ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ แต่ผู้ฟ้องคดีทำการคัดค้าน ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ จึงทำการสอบสวนเปรียบเทียบแล้วมีคำสั่งให้ออกโฉนดที่ดินพิพาทแก่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ ผู้ฟ้องคดีเห็นว่าคำสั่งดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงขอให้ศาลเพิกถอน และมีคำสั่งว่าผู้ฟ้องคดีเป็นผู้มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทส่วนผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองให้การในทำนองเดียวกันว่า ที่ดินพิพาทเป็นของผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ ซึ่งมีหลักฐาน ส.ค. ๑ ทั้งผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ ได้แจ้งการครอบครองไว้แล้วตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๙๖ และครอบครองทำประโยชน์เรื่อยมา คำสั่งของผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑จึงชอบด้วยกฎหมายแล้ว ดังนั้นมูลคดีจึงเป็นกรณีโต้แย้งกันเกี่ยวกับสิทธิในที่ดิน การที่ศาลจะพิจารณาว่าคำสั่งของผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่นั้น จำต้องพิจารณาให้ได้ความเสียก่อนว่า ผู้ฟ้องคดี เป็นผู้มีสิทธิครอบครองในที่ดินพิพาทตามที่กล่าวอ้างหรือไม่แล้วจึงจะมีคำสั่งเกี่ยวกับการออกโฉนดต่อไป จึงเป็นคดีเกี่ยวกับสิทธิในทรัพย์สินของบุคคล อันอยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลยุติธรรม
จึงวินิจฉัยชี้ขาดว่า คดีฟ้องขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งของสำนักงานที่ดินเรื่องให้ออกโฉนดที่ดิน และให้มีคำสั่งว่าผู้ฟ้องคดีเป็นผู้มีกรรมสิทธิ์ในที่ดิน ระหว่าง บริษัท นิวยอร์คหินอ่อนและแกรนิต จำกัด ผู้ฟ้องคดี เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดนครสวรรค์ สาขาชุมแสง ที่ ๑ นายวันชัย เหลืองหิรัญ ที่ ๒ ผู้ถูกฟ้องคดี อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลยุติธรรม ซึ่งในคดีนี้ได้แก่ ศาลจังหวัดนครสวรรค์

(ลงชื่อ) อรรถนิติ ดิษฐอำนาจ (ลงชื่อ) เฉลิมชัย เกษมสันต์
(นายอรรถนิติ ดิษฐอำนาจ) (หม่อมหลวงเฉลิมชัย เกษมสันต์)
ประธานศาลฎีกา กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของศาลยุติธรรม

(ลงชื่อ) อักขราทร จุฬารัตน (ลงชื่อ) อัครวิทย์ สุมาวงศ์
(นายอักขราทร จุฬารัตน) (นายอัครวิทย์ สุมาวงศ์)
ประธานศาลปกครองสูงสุด กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของศาลปกครอง

(ลงชื่อ) พลโท อัฏฐพร เจริญพานิช (ลงชื่อ) พลโท อาชวัน อินทรเกสร
(อัฏฐพร เจริญพานิช) (อาชวัน อินทรเกสร)
หัวหน้าสำนักตุลาการทหาร กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของศาลทหาร

(ลงชื่อ) พรชัย รัศมีแพทย์
(นายพรชัย รัศมีแพทย์)
กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ

Share