คำวินิจฉัยที่ 20/2563

แหล่งที่มา : สำนักงานเลขานุการคณะกรรมการวินิจฉัยฯ

ย่อสั้น

คดีที่โจทก์เป็นเอกชนยื่นฟ้องจำเลยที่ ๑ ถึงที่ ๓ ซึ่งเป็นเอกชนด้วยกันและบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) จำเลยร่วม ว่ากิจการร่วมค้า ฯ ตกลงเช่ารถยนต์จากโจทก์เพื่อนำไปใช้ในการบริหารจัดการด้านการขนส่งสำหรับธุรการทั่วไป ภายในเขตปลอดอากรท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ แต่เมื่อถึงกำหนดชำระค่าเช่า กิจการร่วมค้า ฯ ตัวแทนจำเลยที่ ๑ ถึงที่ ๓ ไม่ชำระค่าเช่าและบอกเลิกสัญญาเช่ารถยนต์ โดยอ้างว่าจำเลยร่วมได้บอกเลิกสัญญาจ้างผู้บริหารและจัดการด้านการขนส่งสินค้าภายในเขตปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (สัญญาหลัก) โดยไม่ชอบด้วยกฎหมายเป็นเหตุให้สัญญาเช่ารถยนต์ต้องสิ้นสุดลง ขอให้จำเลยที่ ๑ ถึงที่ ๓ ร่วมกันชำระเงินจำนวนพร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์ กรณีจึงเป็นสัญญาระหว่างเอกชนกับเอกชนที่มุ่งประสงค์ให้ผู้เช่าต้องดูแลบำรุงรถยนต์ที่ให้เช่าเพื่อให้อยู่ในสภาพดี สามารถใช้งานได้ตามวัตถุประสงค์ โดยผู้ให้เช่าได้รับผลประโยชน์ตอบแทนเป็นค่าเช่าจากผู้เช่า สัญญาพิพาทเป็นสัญญาทางแพ่ง ไม่ใช่สัญญาทางปกครอง ตามมาตรา ๓ แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ คดีพิพาทตามสัญญาดังกล่าวจึงมิใช่คดีพิพาทเกี่ยวกับสัญญาทางปกครอง ตามมาตรา ๙ วรรคหนึ่ง (๔) แห่งพระราชบัญญัติเดียวกัน แม้จะปรากฏข้อเท็จจริงในคดีว่าจำเลยในคดีนี้ได้ยื่นฟ้องจำเลยร่วมต่อศาลปกครองกลาง ขอให้จำเลยร่วมชำระค่าเสียหายจากการบอกเลิกสัญญาจ้างผู้บริหารและจัดการด้านการขนส่งสินค้าภายในเขตปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (สัญญาหลัก) โดยไม่ชอบด้วยกฎหมายเป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย โดยคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองกลางก็ตาม แต่ประเด็นแห่งคดีนี้เป็นการฟ้องให้ปฏิบัติตามสัญญาเช่ารถยนต์อันเป็นข้อพิพาทเกี่ยวกับสิทธิหน้าที่ตามสัญญาระหว่างโจทก์ผู้ให้เช่ากับจำเลยทั้งสามผู้เช่าซึ่งเป็นเอกชนเท่านั้น อันเป็นคนละประเด็นกับคดีดังกล่าวของศาลปกครอง คดีนี้จึงอยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลยุติธรรม

Share