แหล่งที่มา : สำนักงานเลขานุการคณะกรรมการวินิจฉัยฯ
ย่อสั้น
คดีนี้ ผู้ฟ้องคดีเป็นเอกชนยื่นฟ้องการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ที่ ๑ กรมทางหลวง ที่ ๒ และห้างหุ้นส่วนจำกัด ม. ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๓ ให้ร่วมกันชำระค่าเสียหายจากการที่เสาไฟฟ้าจำนวน ๖ ต้น ล้มพาดขวางถนนและเสาไฟฟ้าล้มทับรถยนต์ที่ผู้ฟ้องคดีโดยสารเป็นเหตุให้ผู้ขับขี่รถยนต์คันเกิดเหตุถึงแก่ความตายและผู้ฟ้องคดีได้รับอันตรายสาหัส ซึ่งเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นในระหว่างที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๓ ซึ่งเป็นผู้รับจ้างของผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ ก่อสร้างปรับปรุงทางหลวงหมายเลข ๑๒ ช่วงดังกล่าว มีปัญหาต้องวินิจฉัยว่าข้อพิพาทในคดีนี้เป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับการกระทำละเมิดที่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลยุติธรรมหรือศาลปกครอง เห็นว่า พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๙ วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า ศาลปกครองมีอำนาจพิจารณาพิพากษาหรือมีคำสั่งในเรื่องดังต่อไปนี้ (๓) คดีพิพาทเกี่ยวกับการกระทำละเมิดหรือความรับผิดอย่างอื่นของหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐอันเกิดจากการใช้อำนาจตามกฎหมาย หรือจากกฎ คำสั่งทางปกครอง หรือคำสั่งอื่น หรือจากการละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติหรือปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวล่าช้าเกินสมควร ซึ่งเป็นการจำกัดประเภทคดีพิพาทเกี่ยวกับการกระทำละเมิดของหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ในอำนาจของศาลปกครองจากคดีที่อยู่ในอำนาจของศาลยุติธรรม แม้คดีนี้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ เป็นรัฐวิสาหกิจที่จัดตั้งขึ้นตามมาตรา ๖ แห่งพระราชบัญญัติการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค พ.ศ. ๒๕๐๓ แก้ไขโดยพระราชบัญญัติการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๔๒ กรมทางหลวง ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ เป็นส่วนราชการมีฐานะเป็นกรม สังกัดกระทรวงคมนาคม ตามมาตรา ๒๑ (๖) แห่งพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. ๒๕๔๕ ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ และที่ ๒ จึงเป็นหน่วยงานทางปกครอง ตามมาตรา ๓ แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ แต่เมื่อพิจารณาการกระทำที่เป็นเหตุแห่งการฟ้องคดีนี้ ผู้ฟ้องคดีฟ้องว่า ในระหว่างการก่อสร้างปรับปรุงทางหลวงหมายเลข ๑๒ เสาไฟฟ้าจำนวน ๖ ต้นข้างถนนล้มทับรถยนต์ที่ผู้ฟ้องคดีโดยสารเป็นเหตุให้ผู้ฟ้องคดีได้รับอันตรายสาหัส ซึ่งการกระทำดังกล่าวมิได้เกิดจากการใช้อำนาจตามกฎหมาย หรือจากกฎ คำสั่งทางปกครอง หรือคำสั่งอื่นแต่อย่างใด ทั้งหน้าที่ในการควบคุมดูแลการก่อสร้างทางหลวงหรือการดูแลรักษาเสาไฟฟ้าในขณะที่มีการปรับปรุงหรือก่อสร้างถนนเป็นเพียงหน้าที่ทั่วไป มิใช่หน้าที่ตามที่มีกฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ กรณีจึงไม่เข้าหลักเกณฑ์ของการกระทำละเมิดที่จะอยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลปกครองตามมาตรา ๙ วรรคหนึ่ง (๓) แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ คดีนี้จึงเป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับการกระทำละเมิดทางแพ่งที่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลยุติธรรม