แหล่งที่มา : สำนักงานเลขานุการคณะกรรมการวินิจฉัยฯ
ย่อสั้น
คดีที่โจทก์ทั้งหกเป็นเอกชนยื่นฟ้องหน่วยงานทางปกครองและเจ้าหน้าที่ของรัฐว่า จำเลยทั้งห้าได้ร่วมกันรังวัดและออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง ฉบับที่ ๔๑๓๐/๒๕๑๕ (ที่สงวนเลี้ยงสัตว์โคกเขากระโดง) โดยไม่ชอบด้วยกฎหมายทับที่ดินของโจทก์ทั้งหก ขอให้ศาลมีคำพิพากษาว่า ที่ดินเป็นของโจทก์ทั้งหก ให้เพิกถอนหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวงเฉพาะบริเวณที่ออกทับที่ดินและห้ามจำเลยทั้งห้าหรือบริวารหรือผู้ใต้บังคับบัญชา กระทำการอันเป็นการรบกวนการทำประโยชน์ในที่ดินของโจทก์ทั้งหก จำเลยทั้งห้าให้การทำนองเดียวกันว่า การออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง ได้ดำเนินการโดยถูกต้องตามระเบียบ และข้อกฎหมาย โจทก์ทั้งหกไม่มีเอกสารแสดงสิทธิครอบครองที่ดินพิพาทจึงเป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน เห็นว่า ที่ดินพิพาทในคดีนี้เป็นที่ดินที่โจทก์ทั้งหกอ้างว่าเป็นเจ้าของผู้มีสิทธิครอบครองและทำประโยชน์ต่อเนื่องมาจากบรรพบุรุษ แต่จำเลยทั้งห้าอ้างว่าที่ดินพิพาทเป็นที่รกร้างว่างเปล่า ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกันในการเลี้ยงสัตว์ จึงดำเนินการรังวัดที่ดินเพื่อขอออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง ที่ดินพิพาทจึงเป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน เมื่อการดำเนินการของจำเลยทั้งห้าที่ขอให้มีการออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวงและการรังวัดเพื่อออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวงเป็นเพียงขั้นตอนหนึ่งในกระบวนการออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวงเพื่อให้มีหลักฐานแสดงสิทธิในที่ดินว่าเป็นที่ดินของรัฐเท่านั้น กรณีจึงมิใช่คดีพิพาทตามมาตรา ๙ วรรคหนึ่ง (๑) แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ หากความปรากฏว่าที่ดินพิพาทเป็นของฝ่ายโจทก์ทั้งหก ฝ่ายจำเลยทั้งห้าย่อมไม่มีอำนาจออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวงทับที่ดินของฝ่ายโจทก์ทั้งหกทั้งตามคำขอท้ายฟ้องโจทก์ทั้งหกมีคำขอให้ศาลพิพากษาว่าที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์ทั้งหกกับให้มีคำสั่งให้ออกเอกสารสิทธิ์ให้โจทก์ทั้งหก กรณีตามคำฟ้องและคำให้การจึงเป็นการโต้แย้งสิทธิในที่ดินพิพาทว่าเป็นที่ดินที่โจทก์ทั้งหกมีสิทธิครอบครองตามที่กล่าวอ้างหรือเป็นที่ดินสาธารณประโยชน์ (ที่สงวนเลี้ยงสัตว์โคกเขากระโดง) ตามหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง ฉบับที่ ๔๑๓๐/๒๕๑๕ คดีนี้จึงเป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับสิทธิในที่ดิน อันอยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลยุติธรรม