คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2703/2544

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่รับอุทธรณ์ ป.วิ.พ. มาตรา 234 บัญญัติไว้โดยชัดแจ้งว่าจะต้องนำค่า ฤชาธรรมเนียมทั้งปวงและนำเงินมาชำระตามคำพิพากษา ถ้าจะไม่นำเงินมาชำระตามคำพิพากษา ผู้อุทธรณ์ก็ต้องหาประกันให้ไว้ต่อศาล ซึ่งทรัพย์สินที่จำนองในคดีนี้หาใช่หลักประกันที่ให้ไว้ต่อศาลตาม ป.วิ.พ. มาตรา 234 ไม่ เมื่อจำเลยไม่นำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันมาวางศาลตาม ป.วิ.พ. มาตรา 234 จึงเป็นคำร้องอุทธรณ์ คำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นสืบพยานจำเลยและไม่อนุญาตให้จำเลยเลื่อนคดี แล้วพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน ๔๒๗,๙๕๓.๗๐ บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ ๑๕.๒๕ ต่อปี ของต้นเงิน ๓๘๔,๔๙๖.๐๙ บาท และร้อยละ ๗.๕ ต่อปีของต้นเงิน ๕๗๒ บาท นับแต่วันที่ ๒๕ เมษายน ๒๕๔๑ (วันถัดจากวันฟ้อง) จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ หากไม่ชำระให้ยึดทรัพย์จำนองที่ดินโฉนดเลขที่ ๓๑๖๙๓ ตำบลสีกัน อำเภอดอนเมือง (ตลาดขวัญ) กรุงเทพมหานคร พร้อมสิ่งปลูกสร้างออกขายทอดตลาดนำเงินมาชำระ หากได้เงินไม่พอชำระให้บังคับชำระหนี้จากทรัพย์สินอื่นของจำเลยจนครบ กับให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ ๗,๐๐๐ บาท ค่าขึ้นศาลให้ใช้แทนเท่าทุนทรัพย์ที่โจทก์ชนะคดี
จำเลยอุทธรณ์ขอให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นสืบพยานจำเลยต่อไปแล้วพิพากษาคดีใหม่ ศาลชั้นต้นสั่งอุทธรณ์ว่า จำเลยอุทธรณ์โดยไม่นำค่าธรรมเนียมซึ่งจะต้องใช้แก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งตามคำพิพากษามาวางศาล ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๒๙ จึงไม่รับอุทธรณ์ของจำเลย
จำเลยยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งว่า คำร้องอุทธรณ์คำสั่งของจำเลยเป็นการอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่รับอุทธรณ์ เมื่อจำเลยไม่นำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันมาวางศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๓๔ จึงเป็นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ให้ยกคำร้อง ค่าคำร้องเป็นพับ
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยฎีกาว่า จำเลยเพียงขอให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาสืบพยานต่อไปแล้วพิพากษาใหม่จึงไม่ต้องนำค่าธรรมเนียมซึ่งจะต้องใช้แก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งมาวางศาลและยังไม่ต้องนำเงินมาชำระ ตามคำพิพากษาหรือหาประกันเนื่องจากจำเลยมีหลักประกันจำนองสามารถบังคับเอากับหลักประกันได้อยู่แล้ว ขอให้ยกคำสั่งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์นั้น เห็นว่า การอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่รับอุทธรณ์ ประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๓๔ บัญญัติไว้โดยชัดแจ้งว่า จะต้องนำค่าฤชาธรรมเนียมทั้งปวงและนำเงินมาชำระ ตามคำพิพากษา ถ้าจะไม่นำเงินมาชำระตามคำพิพากษา ผู้อุทธรณ์ก็ต้องหาประกันให้ไว้ต่อศาล ซึ่งทรัพย์สินที่จำนองในคดีนี้ก็หาใช่หลักประกันที่ให้ไว้ต่อศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๓๔ ไม่ คำสั่งศาลอุทธรณ์ชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน โจทก์ไม่แก้ฎีกาจึงไม่กำหนดค่าทนายความชั้นฎีกาให้ .

Share