แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เจ้าพนักงานตำรวจผู้จับกุม ป. สั่งให้ ป. ส่งเมทแอมเฟตามีนที่ ป. ถืออยู่เพื่อเป็นพยานหลักฐาน การที่จำเลย นำถุงบรรจุเมทแอมเฟตามีนจากมือของ ป. หลบหนีไป เป็นการเอาไปเสียซึ่งเมทแอมเฟตามีนที่เจ้าพนักงานสั่งให้ ส่งเพื่อเป็นพยานหลักฐาน มีความผิดตาม ป.อ. มาตรา 142
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม ป.อ. มาตรา 138 วรรคสอง, 139, 140 วรรคแรก, วรรคสาม, 142, 144, 83, 91, 92, 33 พ.ร.บ. วัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518 มาตรา 4, 6, 13 ทวิ, 62, 89, 106 เพิ่มโทษจำเลยหนึ่งในสาม และริบของกลางทั้งหมด
จำเลยให้การปฏิเสธ แต่รับว่าเคยต้องโทษและพ้นโทษมาแล้วจริงตามฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตาม ป.อ. มาตรา 138 วรรคสอง ประกอบด้วยมาตรา 140 วรรคแรก, วรรคสาม, มาตรา 142 พ.ร.บ. วัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518 มาตรา 13 ทวิ วรรคหนึ่ง, มาตรา 89 ป.อ. มาตรา 83 เป็นการกระทำความผิดหลายกรรมต่างกันให้เรียงกระทงลงโทษตาม ป.อ. มาตรา 91 ฐานร่วมกัน ขายวัตถุออกฤทธิ์จำคุก 5 ปี ฐานร่วมกันต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน จำคุก 2 ปี ฐานร่วมกันทำให้เสียหายเอาไปเสียซึ่งทรัพย์สินอันเจ้าพนักงานสั่งให้ส่ง จำคุก 2 ปี รวมจำคุก 9 ปี คำขออื่นให้ยก
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน
จำเลยฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ก่อนเกิดเหตุนางสาวประนอมได้ขุดดินนำถุงพลาสติกบรรจุเมทแอมเฟตามีนประมาณ 40 เม็ด แต่ละเม็ดบรรจุในหลอดกาแฟเพื่อเตรียมไว้เพื่อขาย และขณะที่ร้อยตำรวจโทสถาพรแย่งถุงพลาสติกกับ นางสาวประนอม จำเลยได้ถือมีดเหรียญยาวประมาณ 50 เซนติเมตร ในลักษณะทำท่าจะทำร้ายร้อยตำรวจโทสถาพร ถ้าร้อยตำรวจโทสถาพรจับกุมนางสาวประนอม แสดงว่าจำเลยร่วมรู้เห็นเป็นใจในการที่นางสาวประนอมมี เมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อขาย ครั้นเมื่อนางสุทินผลักอกร้อยตำรวจโทสถาพรเซไปเสียหลักแล้วหยิบถุงบรรจุเมทแอมเฟตามีนจากมือของนางสาวประนอมส่งมอบให้จำเลยพาหลบหนีไป การที่จำเลยเงื้อมีดเหรียญในลักษณะทำท่าจะทำร้ายร้อยตำรวจโทสถาพร ถือได้ว่าเป็นการขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายเพื่อให้ร้อยตำรวจโทสถาพรไม่จับกุมนางประนอมอันเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และขณะกระทำผิดนายสุวรรณซึ่งร่วมกระทำผิดด้วยได้ใช้อาวุธปืนลูกซองขู่จะยิงร้อยตำรวจโทสถาพรจึงต้องรับโทษหนักขึ้น และการที่จำเลยนำถุงพลาสติกบรรจุ เมทแอมเฟตามีนหลบหนีไป ถือว่าเป็นการเอาไปเสียซึ่งเมทแอมเฟตามีนที่ร้อยตำรวจโทสถาพรสั่งให้นางสาวประนอมส่งให้เพื่อเป็นพยานหลักฐาน ดังนั้น การกระทำของจำเลยจึงเป็นการกระทำผิดตามฟ้อง ที่ศาลล่างทั้งสองต่างพิพากษาต้องกันมานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน.