คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1852-1915/2544

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

การขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดที่ได้ราคาต่ำเกินสมควรนอกจากจะต้องยื่นคำร้องต่อศาลไม่ช้ากว่า 15 วัน นับแต่วันที่ ทราบข้อความหรือพฤติการณ์อันเป็นมูลแห่งข้ออ้างตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 วรรคสาม แล้วยังจะต้องอ้างด้วยว่าการขายทอดตลาดในราคาที่ต่ำเกินสมควรนั้นเกิดจากการคบคิดกันฉ้อฉลในระหว่างผู้ที่เกี่ยวข้องในการเข้าสู้ราคาหรือความไม่สุจริตหรือความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของเจ้าพนักงานบังคับคดีในการปฏิบัติหน้าที่ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 309 ทวิ วรรคสอง เมื่อคำร้องของจำเลยอ้างแต่เพียงว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดสิทธิการเช่าโทรศัพท์ของจำเลยไปในราคาที่ต่ำเกินสมควร มิได้อ้างว่าการขายทอดตลาดในราคาต่ำนั้นเกิดจากเหตุดังกล่าวข้างต้น จึงไม่ต้องด้วยกรณีที่จะให้เพิกถอนการขายทอดตลาดได้

ย่อยาว

คดีทั้งหกสิบสี่สำนวนนี้ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งให้รวมพิจารณากับคดีอื่นอีกสามสำนวน ซึ่งศาลแรงงานกลางได้จำหน่ายคดีไปแล้วโดยให้เรียกโจทก์ทั้งหกสิบสี่สำนวนเป็นโจทก์ที่ 1 ถึงที่ 57 และโจทก์ที่ 61 ถึงที่ 67 ตามลำดับ
คดีสืบเนื่องมาจากศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยชำระเงินแก่โจทก์ที่ 1 ถึงที่ 57 และโจทก์ที่ 61 ถึงที่ 67 แต่จำเลยไม่ชำระโจทก์ดังกล่าวจึงขอหมายบังคับคดีและนำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดสิทธิการเช่าโทรศัพท์หมายเลข 4340330 ถึง 4340340 หมายเลข4340345 ถึง 4340355 หมายเลข 8808000 หมายเลข 8808888และหมายเลข 8808080 รวม 25 หมายเลข ซึ่งเป็นของจำเลยขายทอดตลาดไปเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2543 ได้เงินทั้งสิ้น 110,000 บาท
วันที่ 10 มีนาคม 2543 จำเลยยื่นคำร้องว่า เจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดสิทธิการเช่าโทรศัพท์ดังกล่าวไปในราคาที่ต่ำเกินสมควรซึ่งอาจเป็นผลมาจากการที่เจ้าพนักงานบังคับคดีประเมินราคาไว้ต่ำกว่าความเป็นจริงเพียงหมายเลขละ 500 บาท รวม 25 หมายเลขเป็นเงินเพียง 12,500 บาท ทำให้เกิดความสับสนในเรื่องราคา ราคาประเมินตามความเป็นจริงไม่ต่ำกว่า 500,000 บาท เพราะหมายเลขโทรศัพท์ของจำเลยมีลักษณะเฉพาะโดดเด่น จดจำง่าย เหมาะแก่การใช้ประกอบธุรกิจการค้าและเป็นที่ต้องการของตลาด ปัจจุบันซื้อขายกันในราคาไม่ต่ำกว่าหมายเลขละ 50,000 บาท หากเจ้าพนักงานบังคับคดีใช้ความระมัดระวังอย่างรอบคอบพิจารณาถึงคุณสมบัติดังกล่าวแล้วจะพบว่าราคาขายทอดตลาดจะต้องสูงกว่าราคาที่ประเมินไว้เป็นอย่างมากคือเฉลี่ยแล้วราคาไม่ต่ำกว่าหมายเลขละ 30,000 บาท รวม 25 หมายเลขเป็นเงินถึง 750,000 บาท การที่เจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดไปเพียง 110,000 บาท เป็นการขายทอดตลาดโดยรวบรัดไม่รักษาผลประโยชน์ของจำเลย ทำให้จำเลยได้รับความเสียหาย ไม่ชอบด้วยบทบัญญัติแห่งกฎหมายว่าด้วยการบังคับคดี ขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดดังกล่าว
ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งว่า ตามคำร้องของจำเลยได้ความว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดสิทธิการเช่าโทรศัพท์ของจำเลยเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2543 เวลา 9 นาฬิกา โดยผู้รับมอบอำนาจจากจำเลยอยู่ด้วย จึงฟังได้ว่าจำเลยรู้เห็นการขายทอดตลาดดังกล่าวแล้วตั้งแต่วันขายทอดตลาด การยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดจะต้องยื่นไม่ช้ากว่า 8 วัน นับแต่วันทราบการฝ่าฝืนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 วรรคสอง จำเลยยื่นคำร้องในวันที่ 10มีนาคม 2543 จึงล่วงเลยกำหนดระยะเวลาดังกล่าว ให้ยกคำร้อง
จำเลยทั้งหกสิบสี่สำนวนอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า “ปัญหาต้องวินิจฉัยมีว่ากรณีมีเหตุที่จะเพิกถอนการขายทอดตลาดตามคำร้องของจำเลยหรือไม่เห็นว่า แม้จำเลยจะยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดไม่ช้ากว่า15 วัน นับแต่วันที่ทราบข้อความหรือพฤติการณ์อันเป็นมูลแห่งข้ออ้างซึ่งชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 วรรคสามก็ตาม แต่จำเลยก็อ้างมูลแห่งการขอให้เพิกถอนว่าราคาที่ได้จากการขายทอดตลาดต่ำเกินสมควรซึ่งการขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดกรณีดังกล่าวจะต้องปรากฏด้วยว่าการขายทอดตลาดในราคาที่ต่ำเกินสมควรนั้นเกิดจากการคบคิดกันฉ้อฉลในระหว่างผู้ที่เกี่ยวข้องในการเข้าสู้ราคา หรือความไม่สุจริตหรือความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของเจ้าพนักงานบังคับคดีในการปฏิบัติหน้าที่ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 309 ทวิ วรรคสองแต่ตามคำร้องของจำเลยคงได้ความแต่เพียงว่า เจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดสิทธิการเช่าโทรศัพท์ของจำเลยไปในราคาที่ต่ำเกินสมควรโดยมิได้อ้างว่าการขายทอดตลาดในราคาต่ำเกินสมควรนั้นเกิดจากการคบคิดกันฉ้อฉลในระหว่างผู้ที่เกี่ยวข้องในการเข้าสู้ราคา หรือความไม่สุจริตหรือความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของเจ้าพนักงานบังคับคดีแต่อย่างใดแม้จำเลยจะระบุไว้ในคำร้องว่า หมายเลขโทรศัพท์ของจำเลยมีลักษณะเฉพาะเหมาะสำหรับใช้ประกอบธุรกิจการค้าเป็นที่ต้องการของตลาด ปัจจุบันซื้อขายกันในราคาไม่ต่ำกว่าหมายเลขละ 50,000 บาท หากเจ้าพนักงานบังคับคดีใช้ความระมัดระวังอย่างรอบคอบพิจารณาถึงคุณลักษณะดังกล่าวก็จะพบว่าราคาขายทอดตลาดจะต้องสูงกว่าราคาที่ประเมินไว้หมายเลขละ500 บาท เป็นจำนวนมาก คือเฉลี่ยแล้วราคาขายทอดตลาดไม่ควรต่ำกว่าหมายเลขละ 30,000 บาท รวมแล้วควรจะขายในราคา 750,000 บาทแต่เจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดไปในราคาเพียง 110,000 บาทเพราะมิได้พิจารณาถึงคุณลักษณะเฉพาะของหมายเลขโทรศัพท์ของจำเลยก็เป็นเรื่องพิเศษนอกเหนือ ไม่ใช่กรณีประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง ทั้งปรากฏในคำร้องของจำเลยว่าก่อนขายทอดตลาดเจ้าพนักงานบังคับคดีได้สอบถามฝ่ายจำเลยแล้วว่าจะให้ขายทอดตลาดในราคาเริ่มต้นที่เท่าไร ผู้รับมอบอำนาจของจำเลยเสนอให้ขายในราคา 100,000 บาท แสดงว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ใช้ความระมัดระวังในการขายทอดตลาดแล้ว ข้อเท็จจริงตามคำร้องของจำเลยไม่ต้องด้วยกรณีที่จะให้เพิกถอนการขายทอดตลาดได้ ที่ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งให้ยกคำร้อง ศาลฎีกาเห็นด้วยในผล”
พิพากษายืน

Share