แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
หลอดแก้วซึ่งสั่งมาจากต่างประเทศเพื่อให้โรงงานผลิตยาใช้สำหรับบรรจุยาฉีดนั้น เป็นสินค้าสำเร็จรูปตามความหมายแห่งประมวลรัษฎากร มาตรา 77 เพราะใช้บรรจุยาฉีดได้ทันทีโดยไม่ต้องเปลี่ยนหรือดัดแปลงหรือนำไปผสมกับสิ่งอื่นก่อน
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ ๒ ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานประเมินภาษีการค้าของจำเลยที่ ๑ ได้มีใบสั่ง ภ.ค. (พ) ๘ แจ้งให้โจทก์เสียภาษีการค้าเพิ่มเติม พร้อมด้วยเงินเพิ่มและเบี้ยปรับสำหรับหลอดแก้วบรรจุยาฉีดซึ่งให้โจทก์นำเข้ามาในราชอาณาจักร โดยว่าเป็นสินค้าสำเร็จรูป ซึ่งต้องเสียภาษีร้อยละ ๕ ไม่ใช่ร้อยละ ๑.๕ ตามที่โจทก์เสียไว้แล้ว โจทก์อุทธรณ์ต่อจำเลยที่ ๓, ๔, ๕ ซึ่งเป็นคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ ว่าหลอดแก้วดังกล่าวไม่ใช่สินค้าสำเร็จรูป แต่ถูกยกอุทธรณ์ จึงขอให้พิพากษาเพิกถอนใบสั่งประเมินและคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของจำเลย
จำเลยทั้งห้าต่อสู้ว่า หลอดแก้วสำหรับบรรจุยาฉีดที่โจทก์สั่งจากต่างประเทศเป็นสินค้าสำเร็จรูปตามประมวลรัษฎากร มาตรา ๗๗
ในการชี้สองสถาน โจทก์ได้นำหลอดแก้วที่เป็นวัตถุโต้เถียงเรื่องเก็บภาษีส่งศาลรวม ๓ หลอด หมาย ๑ เป็นหลอดที่โจทก์สั่งมาขายให้โรงงานผลิตยา ผู้ซื้อไปแล้วต้องตัดปลายแก้วออกตามหลอดหมาย ๒ แล้วบรรจุยาลงไปในหลอดและแล้วทำการปิดหลอดตามหลอดหมาย ๓ โจทก์จำเลยขอให้วินิจฉัยว่า หลอดแก้วที่โจทก์สั่งเข้ามาเป็นสินค้าสำเร็จรูปหรือไม่ใช่
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ตามประมวลรัษฎากร มาตรา ๗๗ บัญญัติว่า สินค้าสำเร็จรูปหมายความว่า สินค้าซึ่งตามสภาพอาจอุปโภคบริโภคได้โดยไม่จำต้องเปลี่ยนหรือดัดแปลงหรือนำไปผสมกับสิ่งอื่น
ศาลฎีกาเห็นว่า หลอดแก้วสำหรับใช้บรรจุยาฉีดที่โจทก์นำเข้ามาในคดีนี้ใช้บรรจุยาฉีดได้ทันทีโดยไม่ต้องเปลี่ยนหรือดัดแปลงหรือไปผสมกับสิ่งอื่นก่อนจึงจะใช้ได้ นับได้ว่าเป็นสินค้าสำเร็จรูปตามความหมายแห่งประมวลรัษฎากร มาตรา ๗๗ แล้ว แม้วัตถุประสงค์ของโจทก์ในการนำหลอดแก้วเข้ามาเพื่อส่งให้โรงงานอุตสาหกรรมใช้บรรจุยาฉีด ศาลฎีกาเห็นว่า สินค้าสำเร็จรูปตามประมวลรัษฎากรนั้น หาได้หมายถึงความต้องการของบุคคลไม่ แต่หมายถึงตัวสินค้านั้น ๆ ว่าจะนำไปใช้ได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนหรือดัดแปลงเท่านั้น การที่โรงงานอุตสาหกรรมนำไปใช้บรรจุยาฉีด ก็ถือได้ว่าสินค้านั้นใช้ได้แล้วโดยไม่ต้องเปลี่ยนหรือดัดแปลง ตรงตามความหมายของคำว่าสินค้าสำเร็จรูปแล้ว
ที่โจทก์ฎีกาว่า หากหลอดแก้วต้องเสียภาษีร้อยละ ๕ แล้ว เมื่อโรงงานอุตสาหกรรมบรรจุยาฉีดออกมาจำหน่าย ก็ต้องเสียภาษีในอัตราร้อยละ ๕ อีก เท่ากับสินค้าหลอดแก้วอย่างเดียวเสียภาษีซ้อนกัน ๒ ครั้งนั้น ศาลฎีกาเห็นว่า การเสียภาษีหลอดแก้วนั้น เสียตามราคาในฐานเป็นสินค้าหลอดแก้ว ส่วนเมื่อบรรจุยาฉีดแล้ว เสียภาษีในฐานเป็นสินค้ายาฉีด ซึ่งเป็นคนละประเภท หาเป็นการเสียภาษีซ้อนกันไม่
พิพากษายืน.