แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า คดีนี้จำเลยทั้งสองได้อ้างถึงผู้เชี่ยวชาญจากศาลเพื่อตรวจสอบสัญญากู้และสัญญาค้ำประกันตามฟ้อง ไว้ในบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมครั้งที่ 3 ฉบับลงวันที่ 18 มกราคม 2543 แล้ว แต่ด้วยความพลั้งเผลอ หลงลืม จำเลยทั้งสองมิได้ร้องขอให้ส่งเอกสารดังกล่าวให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบในการพิจารณาของศาลชั้นต้น และเนื่องจากคดีนี้จำเลยทั้งสองได้ต่อสู้ในประเด็นว่า เอกสารสัญญากู้และสัญญาค้ำประกัน เอกสารหมาย จ.3 และ จ.4 เป็นเอกสารปลอม จำเลยทั้งสองจึงขอให้ศาลฎีกาโปรดตั้งผู้เชี่ยวชาญจากศาลตรวจสอบสัญญากู้และสัญญาค้ำประกันดังกล่าว เพื่อประกอบการวินิจฉัยของศาลฎีกาด้วย
หมายเหตุ โจทก์ยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินจำนวน 259,700 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี จากต้นเงิน 230,000 บาท นับแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2542 ซึ่งเป็นวันถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืน
จำเลยทั้งสองฎีกา (อันดับ 96)
คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา
จำเลยทั้งสองยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 105)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว เห็นว่าการขอให้ศาลตั้งผู้เชี่ยวชาญเพื่อตรวจสอบว่า สัญญากู้และสัญญาค้ำประกันตามประเด็นคำให้การของจำเลยทั้งสองว่าเป็นเอกสารปลอมหรือไม่ เป็นการนำสืบพยานหลักฐานที่สามารถกระทำได้ก่อนศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาจำเลยทั้งสองเพิ่งยื่นคำขอต่อศาลฎีกา จึงไม่มีเหตุอันควรอนุญาต ให้ยกคำร้อง