คำสั่งคำร้องที่ 1831/2531

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยที่ 1 ที่ 2 ฎีกาคำสั่งศาลอุทธรณ์ศาลชั้นต้นสั่งว่า กรณีศาลอุทธรณ์สั่งยืนไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยคดีจึงถึงที่สุดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 236แล้ว จึงไม่รับฎีกาคำสั่งของจำเลย
จำเลยที่ 1 ที่ 2 เห็นว่า อุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองเป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเป็นสาระสำคัญอันควรได้รับการวินิจฉัยโปรดมีคำสั่งให้รับอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์ยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 และที่ 2 ร่วมกันชำระเงินจำนวน 2,400 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีของต้นเงินดังกล่าว นับแต่วันที่ 15 มิถุนายน 2530เป็นต้นไปจนกว่าจำเลยที่ 1 ที่ 2 จะร่วมกันชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยที่ 1 ที่ 2 อุทธรณ์ ศาลชั้นต้นสั่งว่า คดีนี้จำเลยอุทธรณ์โต้แย้งดุลพินิจของศาลในเรื่องการรับฟังพยานหลักฐานจึงเป็นการอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง ไม่รับอุทธรณ์ (อันดับ 48)
จำเลยที่ 1 ที่ 2 ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่ง (อันดับ 51)
ศาลอุทธรณ์สั่งว่า พิเคราะห์แล้ว ปัญหาเรื่องอำนาจฟ้องของโจทก์ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า รถเลขทะเบียน นม.ข-0089ที่ส่งมอบให้จำเลยที่ 1 เป็นคันเดียวกันกับคันเลขทะเบียน6 ข-8641 กรุงเทพมหานคร ที่ตกลงเช่าซื้อกัน เหตุที่เลขทะเบียนเปลี่ยนไปก็เพราะมีการแจ้งย้ายทะเบียนจากกรุงเทพมหานครไปยังจังหวัดนนทบุรี จำเลยอุทธรณ์ว่ารถเลขทะเบียน นม. ข-0089เป็นของผู้อื่นและไม่ใช่คันเดียวกับที่ตกลงเช่าซื้อ จึงเป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับอุทธรณ์จำเลยชอบแล้วให้ยกคำร้อง (อันดับ 64)
จำเลยที่ 1 ที่ 2 ฎีกาคำสั่ง ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว(อันดับ 66)
จำเลยที่ 1 ที่ 2 จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 68)

คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์สั่งว่าอุทธรณ์ของจำเลยที่ 1 และที่ 2 เป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยชอบแล้ว เป็นคำสั่งในเนื้อหาของอุทธรณ์คำสั่งแล้วคำสั่งของศาลอุทธรณ์จึงเป็นที่สุดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 236 ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยชอบแล้วยกคำร้อง ค่าคำร้องเป็นพับ

Share