แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยที่ 2 ขอให้ศาลปล่อยชั่วคราวในระหว่างฎีกาโดยผู้ขอประกันได้เสนอบัญชีทรัพย์มาพร้อมคำร้องแล้ว
หมายเหตุ คดีสองสำนวนนี้ ศาลชั้นต้นสั่งรวมพิจารณาพิพากษาเข้าด้วยกันโดยเรียกจำเลยที่ 1 ที่ 2 ในสำนวนแรก และจำเลยที่ 1ที่ 2 ที่ 3 ในสำนวนหลังว่าจำเลยที่ 1 ที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 และที่ 5ตามลำดับ
ระหว่างพิจารณา นายบุญส่ง แย้มวิทยา นายสมพงษ์ แย้มวิทยานางสาวภาวนาแย้มวิทยาและนายบุญถนอม แย้มวิทยา ผู้เสียหายยื่นคำร้องขอเข้าเป็นโจทก์ร่วม ศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 2 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 295,297,371 ประกอบมาตรา 83 การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามมาตรา 297 ซึ่งเป็นบทหนักที่สุด จำคุก 3 ปี ผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371ปรับ 100 บาท ให้เรียงกระทงลงโทษ รวมจำคุก 3 ปี ปรับ 100 บาท ฯลฯ
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำคุกจำเลยที่ 22 ปี ฯลฯ
จำเลยที่ 2 ยื่นคำร้องดังกล่าว โดยแถลงในคำร้องประกอบว่าจะยื่นฎีกาต่อไป (อันดับ 290,289)
ศาลชั้นต้นอนุญาตให้ปล่อยจำเลยที่ 2 ชั่วคราว และในชั้นอุทธรณ์ศาลชั้นต้น ตีราคาประกัน 70,000 บาท (อันดับ 181)
คำสั่ง
คดีนี้ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เฉพาะกำหนดโทษเป็นการแก้ไขเพียงเล็กน้อย และคงจำคุกไม่เกินห้าปี คดีต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218จำเลยยังมิได้ยื่นฎีกาจึงไม่มีเหตุที่จะอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวในระหว่างฎีกา ให้ยกคำร้อง