คำสั่งคำร้องที่ 161/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของจำเลยเป็นการฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามกฎหมาย จึงไม่รับฎีกาจำเลยเห็นว่า ฎีกาของจำเลยเป็นปัญหาข้อกฎหมายว่า โจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหายในคดีนี้ โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยด้วย
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 76 แผ่นที่ 2)
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 365(3) จำคุก 3 เดือน
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลงโทษกักขังจำเลยมีกำหนด3 เดือนแทนโทษจำคุก ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 23 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 73)จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 74)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย3 เดือน ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าให้ลงโทษกักขังจำเลยมีกำหนด3 เดือนแทนโทษจำคุกเป็นการแก้ไขเล็กน้อย ห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218วรรคแรก ที่จำเลยฎีกาว่าโจทก์ไม่ใช่เจ้าของที่พิพาท โจทก์จึงไม่ใช่ผู้เสียหายไม่มีอำนาจฟ้อง ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามกันมาว่าโจทก์เป็นเจ้าของที่พิพาทฎีกาของจำเลยเป็นการโต้เถียงในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามบทบัญญัติกฎหมายดังกล่าว ที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาจำเลยชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง

Share