แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า ผู้คัดค้านอุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งว่าพิเคราะห์แล้วอุทธรณ์ของผู้คัดค้านทุกข้อเป็นปัญหาข้อเท็จจริงเพราะทุกข้อมุ่งให้ศาลฟังข้อเท็จจริงใหม่เป็นอย่างอื่นหรือมุ่งให้ศาลกำหนดดุลพินิจใหม่จึงต้องห้าม เหตุนี้จึงไม่รับอุทธรณ์ของผู้คัดค้าน
ผู้คัดค้านเห็นว่า อุทธรณ์ของผู้คัดค้านในข้อ ก. ที่ว่าการกระทำของผู้คัดค้านเป็นความผิดร้ายแรงหรือไม่ เป็นข้อกฎหมายตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องการคุ้มครองแรงงานข้อที่ 47(3) อุทธรณ์ในข้อ ข. ที่ว่าการกระทำของผู้คัดค้านได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์มาตรา 54(1-4) หรือไม่ และเอกสารหมาย ร.3 เป็นเอกสารที่มี ข้อความเกี่ยวกับข้อพิพาทแรงงานหรือไม่ ซึ่งเป็นปัญหาข้อกฎหมาย อุทธรณ์ในข้อ ค. ที่ว่าการกระทำของผู้คัดค้านเป็นการกระทำ ความผิดซ้ำคำเตือนตามเอกสารหมาย ร.12 ที่ได้เตือนมาแล้ว หรือไม่ เป็นข้อกฎหมายตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องการคุ้มครองแรงงาน ข้อที่ 47(2) และอุทธรณ์ของ ผู้คัดค้านข้อ ค. ที่ว่าศาลชั้นต้นลงโทษผู้คัดค้านโดยการเลิกจ้าง เป็นการขัดกับมาตรา 20 แห่งพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์หรือไม่ เป็นปัญหาข้อกฎหมาย โปรดมีคำสั่งให้รับอุทธรณ์ของ ผู้คัดค้านไว้ด้วย
หมายเหตุ ผู้ร้องแถลงคัดค้าน (อันดับ 56)
ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งอนุญาตให้บริษัทไทยแมนอินดัสตรีส์จำกัด ผู้ร้องเลิกจ้างนางสาววันเพ็ญ มุ่งหมาย กรรมการลูกจ้างได้คำขออื่นของผู้ร้องนอกจากนี้ให้ยกเสีย
ผู้คัดค้านอุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ดังกล่าว (อันดับ 89)
ผู้คัดค้านยื่นคำร้องนี้ และคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมคำร้อง(อันดับ 89,90)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่า ผู้คัดค้านแจกใบปลิวเอกสารหมาย ร.3 ซึ่งเป็นเอกสารที่มีข้อความปลุกปั่น ส่อเสียด ใส่ความ และดูหมิ่นผู้ร้องให้ได้รับความเสียหายนอกจากนี้ข้อความในใบปลิวยังเพ่งเล็งถึงตัวบุคคลด้วยถ้อยคำ รุนแรงแสดงถึงความกระด้างกระเดื่อง ไม่เคารพผู้บังคับบัญชา ก่อให้เกิดความแตกแยกสามัคคีในหมู่พนักงานกับผู้ร้อง มิได้มีข้อความชี้แจงหรือโฆษณาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับข้อพิพาทแรงงาน การกระทำของผู้คัดค้านเป็นการฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับอย่างร้ายแรงกับเป็นการกระทำผิดซ้ำคำเตือนมิได้เป็นการกระทำอย่างหนึ่งอย่างใดในอันจะได้รับความคุ้มครอง ตามกฎหมายย่อมหมายความว่าผู้คัดค้านกระทำผิดเป็นการส่วนตัว การที่ผู้คัดค้านอุทธรณ์ว่า ผู้คัดค้านแจกใบปลิวในฐานะเป็น กรรมการสหภาพแรงงานไม่เป็นความผิดร้ายแรง ใบปลิวเอกสาร ร.3 เกี่ยวกับข้อพิพาทแรงงาน ผู้ร้องได้รับความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2518 มาตรา 49(1-4) และการกระทำของผู้คัดค้านเป็นคนละเรื่องกับที่เคยถูกผู้ร้อง ตักเตือนไม่เป็นความผิดซ้ำคำเตือนตามข้อ ก. ข. ค. นั้น จำเป็นที่ศาลจะต้องวินิจฉัยข้อเท็จจริงก่อนว่า ผู้ร้องกระทำ ในฐานะส่วนตัวหรือในฐานะกรรมการสหภาพแรงงานและข้อความ ในใบปลิวเอกสาร ร.3 เป็นเรื่องส่วนตัวหรือเกี่ยวกับ ข้อพิพาทแรงงาน เท่ากับเป็นการอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง เพื่อนำไปสู่ปัญหาข้อกฎหมายตามอุทธรณ์ของผู้คัดค้าน อุทธรณ์ของ ผู้คัดค้านจึงต้องห้ามอุทธรณ์ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2523 มาตรา 54ศาลแรงงานกลางไม่รับอุทธรณ์ของผู้คัดค้านชอบแล้ว ส่วนในปัญหาที่ผู้คัดค้านอุทธรณ์ว่า การลงโทษผู้คัดค้านโดยให้เลิกจ้าง เป็นการผิดขั้นตอนของระเบียบข้อบังคับการทำงานเป็นการไม่ชอบ เป็นปัญหาข้อกฎหมาย จึงไม่ต้องห้ามอุทธรณ์ตามบทบัญญัติของ กฎหมายดังกล่าว ให้รับอุทธรณ์ของผู้คัดค้านข้อ ง. และดำเนินการต่อไป