คำสั่งคำร้องที่ 845/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยทั้งสองฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า พิเคราะห์ฎีกาของจำเลยแล้ว เห็นว่าเป็นฎีกาที่เป็นข้อกฎหมาย ไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัยจากศาลฎีกา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 ที่แก้ไขแล้ว ไม่รับฎีกาจำเลย
จำเลยทั้งสองเห็นว่า ฎีกาของจำเลยทั้งสองในประเด็นที่ว่า คำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 1 ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่เป็นปัญหาเกี่ยวกับการดำเนินกระบวนพิจารณาของศาล จึงเป็นปัญหา ข้อกฎหมายที่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัยจากศาลสูง โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยทั้งสองไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 73 แผ่นที่ 2)
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินจำนวน 57,750 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีของต้นเงิน 42,000 บาท นับแต่วันฟ้อง (วันที่ 8 กรกฎาคม 2534)เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
จำเลยทั้งสองฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว(อันดับ 67 แผ่นที่ 2)
ทนายจำเลยทั้งสองจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 70)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ปรากฏว่าคดีนี้ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1จำนวน 2 คน ได้ลงชื่อในคำพิพากษาแล้ว ส่วนผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 อีก 1 คน ได้ร่วมปรึกษาเป็นองค์คณะ และได้ลงนามไว้ในต้นร่างคำพิพากษาแล้ว แต่ได้รับแต่งตั้งให้ไปดำรงตำแหน่งที่ศาลอื่นก่อนลงนามในคำพิพากษานั้นอธิบดีศาลอุทธรณ์ภาค 1 จึงบันทึกเหตุดังกล่าวกลัดไว้ในสำนวนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 141 วรรคสองเช่นนี้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 จึงชอบแล้ว การที่จำเลยทั้งสองฎีกาว่า คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 ไม่ชอบเพราะผู้พิพากษา 3 คน ที่เป็นองค์คณะแต่เริ่มแรกลงชื่อในคำพิพากษาไม่ครบ จึงเป็นข้อกฎหมายที่ไม่เป็นสาระแก่คดี อันควรได้รับการวินิจฉัย ที่ศาลชั้นต้นไม่รับฎีกา ของจำเลยทั้งสองชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง ค่าคำร้องเป็นพับ

Share