แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยฎีกา มีโอกาสชนะคดี โปรดอนุญาตให้ ทุเลาการบังคับไว้ก่อน
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 123)
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยหย่ากับโจทก์ ให้จำเลยไปจดทะเบียนแบ่งแยกที่ดินโฉนดเลขที่ 26358 ตำบลบางพระอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี พร้อมสิ่งปลูกสร้างในที่ดินบ้านเลขที่ 139/15 และศาลทรงเจ้า ที่ดินโฉนดเลขที่ 31654ตำบลบางพระ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี พร้อมบ้านเลขที่ 130/8 และให้แบ่งที่ดินมือเปล่า หมู่ที่ 4 ตำบลบางพระ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี เฉพาะส่วนของจำเลยเนื้อที่ประมาณ 1 ไร่ อาวุธปืนรีวอลเวอร์ ขนาด .38 เครื่องหมายทะเบียน ชบ.2/1122รถยนต์ยี่ห้ออีซูซุหมายเลขทะเบียนม-1452 ชลบุรี เงินฝากที่ธนาคารเอเซีย จำกัดสาขาบางพระ ให้โจทก์กึ่งหนึ่ง หากตกลงแบ่งกันไม่ได้หรือตามสภาพทรัพย์ไม่อาจแบ่งได้ หรือการแบ่งจะทำให้ทรัพย์นั้น เสียหายมาก ก็ให้เอาทรัพย์นั้นออกขายโดยประมูลระหว่าง โจทก์กับจำเลยก่อน หากยังขายไม่ได้ให้เอาทรัพย์นั้น ออกขายทอดตลาดเอาเงินแบ่งกันคนละกึ่งหนึ่ง ให้จำเลย จ่ายค่าเลี้ยงชีพแก่โจทก์เดือนละ 2,000 บาท นับแต่วันฟ้องเป็นเวลา 6 ปี และให้จำเลยจ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดู นางสาวอังคณา ขุนนาแก้ว เดือนละ 1,000 บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะบรรลุนิติภาวะ ให้นางสาวอังคณา ขุนนาแก้ว อยู่ในความปกครองของโจทก์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องดังกล่าว (อันดับ 119,120)
จำเลยขอทุเลาการบังคับในระหว่างอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยกคำร้อง (อันดับ 108)
คำสั่ง
การหย่าโดยคำพิพากษามีผลแต่เวลาที่คำพิพากษาถึงที่สุดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1531 วรรคสองคดียังไม่ถึงที่สุด โจทก์ยังไม่อาจบังคับคดีเกี่ยวกับการหย่าตลอดจนการแบ่งทรัพย์ การจ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดู ค่าเลี้ยงชีพซึ่งเป็นผลต่อเนื่องจากการหย่าตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์จำเลยไม่จำต้องขอทุเลาการบังคับในระหว่างฎีกา ให้ยกคำร้องและห้ามจำเลยทำนิติกรรมใด ๆ เกี่ยวกับที่ดินพิพาทในระหว่างฎีกา ให้ศาลชั้นต้นแจ้งคำสั่งให้เจ้าพนักงานที่ดินทราบ