แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
รับเป็นนายหน้าจัดให้เขาได้เช่าที่ดินของทรัพย์สินพระมหากษัตริย์โดยวิ่งเต้นให้เจ้าหน้าที่ในสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ใช้ตำแหน่งหน้าที่ช่วยเหลือผู้ขอเช่าดังนี้ ย่อมเป็นการขัดขวางต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชนฉะนั้นความตกลงทั้งหลายในกรณีเช่นนี้จึงเป็นโมฆะกรรม ใช้บังคับไม่ได้จึงฟ้องเรียกค่านายหน้าจากผู้เช่า ไม่ได้ด้วย
ย่อยาว
คดีนี้ โจทก์ฟ้องเรียกค่านายหน้าจากจำเลยโดยโจทก์กับพวกได้เป็นสื่อให้จำเลยเข้าทำสัญญากับนายประเชิญ ปรีชาไว จนจำเลยได้ทำสัญญาเช่าที่ดินจากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ฯลฯแล้วจำเลยบิดพลิ้วไม่ชำระเงินค่านายหน้าให้โจทก์
จำเลยให้การปฏิเสธว่า ตกลงกับโจทก์สำหรับที่ดินอื่น ไม่ใช่รายนี้
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยจ่ายเงิน 8,200 บาท ให้โจทก์พร้อมทั้งดอกเบี้ย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาพิจารณาแล้ว เห็นว่าตามข้อเท็จจริงคงได้ความว่าวัตถุประสงค์ที่โจทก์กับพวกกระทำไปก็คือให้นายประเชิญ ใช้ตำแหน่งหน้าที่ช่วยเหลือจำเลยทั้งนี้ย่อมเป็นการขัดขวางต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน เพราะฉะนั้น ความตกลงทั้งหลายในกรณีนี้จึงเป็นโมฆะกรรม ใช้บังคับไม่ได้ อาศัยอำนาจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142 จึงพิพากษากลับศาลล่างทั้งสอง ให้ยกฟ้องโจทก์เสีย