คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 296/2508

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

สัญญาที่จำเลยผู้ทำละเมิดทำให้ไว้แก่โจทก์ซึ่งเป็นผู้เสียหายเพื่อระงับข้อพิพาทโดยโจทก์มิได้ตกลงด้วยนั้น ยังหาใช่สัญญาประนีประนอมยอมความไม่ แต่ในชั้นพิจารณาถ้าจำเลยแถลงต่อศาลโดยอ้างถึงสัญญานี้ และโจทก์ก็ได้แถลงรับ ทั้งขอให้จำเลยปฏิบัติตามสัญญา แล้วต่างลงลายมือชื่อไว้ในรายงานกระบวนพิจารณาของศาลด้วยรายงานกระบวนพิจารณานี้จึงเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความอันเป็นผลให้มูลละเมิดซึ่งมีอยู่ระงับสิ้นไป โจทก์จึงย่อมจะมาฟ้องจำเลยในมูลละเมิดเดิมอีกไม่ได้ได้แต่จะฟ้องตามสัญญาประนีประนอมยอมความที่ทำกันไว้เท่านั้น

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 2, 3 และ 4 ได้เข้าเป็นหุ้นส่วนสามัญซื้อรถยนต์บรรทุกเพื่อรับส่งคนโดยสาร หากำไรแบ่งกัน และจ้างจำเลยที่ 1 เป็นคนขับ จำเลยที่ 1 ขับรถโดยประมาทเบียดรถยนต์โจทก์ตกถนนเป็นเหตุให้โจทก์ได้รับบาดเจ็บ ศาลได้พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 9 เดือน จึงขอให้จำเลยร่วมกันรับผิดต่อโจทก์ 30,000 บาท

จำเลยทั้งสี่ให้การปฏิเสธต่อสู้คดี

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง เพราะเห็นว่าตามข้อความในรายงานกระบวนพิจารณาคดีอาญา เป็นสัญญาประนีประนอมยอมความ ทำให้โจทก์และจำเลยที่ 2 ได้สิทธิตามที่แสดงไว้ เลิกสิทธิเรียกร้องซึ่งมีอยู่เดิมแล้ว จำเลยที่ 2, 3 และ 4 จึงไม่ต้องรับผิดร่วมกับจำเลยที่ 1

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ที่จำเลยที่ 1 ทำหนังสือมอบให้โจทก์ และโจทก์แถลงในคดีอาญาดังกล่าว หาใช่เป็นการเลิกสิทธิเรียกร้องเดิมเป็นเพียงโจทก์ประนีประนอมในจำนวนค่าเสียหาย จำเลยที่ 1 ได้ชำระให้โจทก์แล้วหรือไม่ ศาลจะต้องฟังหลักฐานต่อไปพิพากษายก ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่ตามรูปคดี

จำเลยทั้ง 4 ฎีกา

ศาลฎีกาได้พิจารณาสัญญาที่จำเลยที่ 1 ทำให้ไว้แก่โจทก์แล้วเห็นว่าสัญญานี้จะฟังว่าเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความยังไม่ได้เพราะมีแต่จำเลยที่ 1 ลงลายมือชื่อเป็นผู้รับผิดแต่ผู้เดียว ฝ่ายโจทก์มิได้ตกลงเป็นผู้รับผิดด้วย แต่เมื่อจำเลยที่ 1 แถลงต่อศาลโดยอ้างอิงถึงสัญญานี้ตามรายงานกระบวนพิจารณาของศาล และโจทก์แถลงรับ แล้วต่างฝ่ายต่างลงลายมือชื่อไว้นั้น ฟังได้ว่าจำเลยที่ 1ขอให้และโจทก์ขอรับค่าเสียหายเป็นเงิน 20,000 บาท รายงานกระบวนพิจารณานี้จึงเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 1 ด้วย และเป็นผลให้มูลละเมิดซึ่งมีอยู่ระงับสิ้นไป ทำให้แต่ละฝ่ายได้สิทธิตามที่แสดงไว้ในสัญญาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 852 โจทก์จะมาฟ้องจำเลยที่ 1 ในมูลละเมิดที่ระงับสิ้นไปแล้วไม่ได้ โจทก์ชอบที่จะฟ้องจำเลยที่ 1 ตามสัญญาประนีประนอมยอมความที่ได้ทำกันไว้

พิพากษากลับ ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

Share