แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ยึดทรัพย์ก่อนคำพิพากษาในคดีหนึ่ง คดีนั้นถึงที่สุดโดยจำเลยเป็นฝ่ายชนะคดี ต้องถือว่า คำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้ยึดทรัพย์ไว้ก่อนพิพากษานั้น เป็นอันยกเลิกไปในตัวโจทก์จะขอให้โอนการยึดทรัพย์เช่นว่านี้ไปจะขอให้โอนการยึดทรัพย์เช่นว่านี้ไปเป็นการบังคับคดีในอีกคดีหนึ่งซึ่งโจทก์เป็นฝ่ายชนะคดีหาได้ไม่ การที่โจทก์จะขอให้บังคับคดีในคดีที่โจทก์เป็นฝ่ายชนะอย่างไร ก็จะต้องไปดำเนินการในคดีนั้นเอง
ย่อยาว
โจทก์ขอยึดช้าง 1 เชือกก่อนพิพากษา ศาลอนุญาต นายสุภาพร้องขัดทรัพย์ว่าช้างเป็นของผู้ร้อง
โจทก์และผู้ร้องตกลงให้งดคดีขัดทรัพย์ไว้รอฟังผลคดีระหว่างโจทก์จำเลยเสียก่อน ศาลอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้โจทก์ชนะคดี แต่ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ให้จำเลยชนะคดี
เมื่อศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาให้โจทก์จำเลยฟังแล้วโจทก์ร้องขอให้ศาลสั่งโอนการยึดช้างในคดีนี้ไปดำเนินกระบวนการพิจารณาในคดีแพ่งแดงที่ 82/2498 เพราะโจทก์ชนะคดีจำเลยคดีนั้นอยู่อีกเรื่องหนึ่ง ศาลสั่งว่าคดีนี้ยังมิได้มีการถอนการบังคับคดีเมื่อโจทก์เป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาในคดีอื่น เพื่อความสะดวกจึงให้ถือว่าการยึดนี้เป็นการบังคับคดีในคดีแพ่งแดงที่ 82/2498 ต่อไปตามขอ
ผู้ร้องยื่นคำร้องคัดค้านและขอให้เพิกถอนคำสั่ง ศาลสั่งว่าผู้ร้องเป็นบุคคลภายนอกให้ยกคำร้อง
ผู้ร้องยื่นคำร้องอีกฉบับหนึ่ง ขอให้ศาลยกคดีขัดทรัพย์ขึ้นพิจารณาวินิจฉัยให้เสร็จไปศาลสั่งว่าการยึดทรัพย์ได้โอนไปเป็นการยึดทรัพย์ในคดีแพ่งแดงที่ 82/2498 แล้ว การร้องขัดทรัพย์ในคดีนี้ย่อมระงับไปในตัว ให้จำหน่ายคดีร้องขัดทรัพย์
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ถอนการยึดช้างในคดีนี้เสีย โจทก์จะบังคับคดีในคดีแดงที่ 82/2498 อย่างไรก็ให้จัดการใหม่
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาพิจารณาแล้ว คดีนี้ศาลพิพากษาถึงที่สุดให้จำเลยเป็นฝ่ายชนะคดีโดยมิได้กล่าวถึงการยึดช้างก่อนพิพากษาประการใดจึงต้องถือว่าคำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้ยึดช้างไว้ก่อนพิพากษาเป็นอันยกเลิกไปตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 260 (1) ฉะนั้น โจทก์จะขอให้โอนการยึดช้างไปเป็นการบังคับคดีในคดีแดงที่ 82/2498 ไม่ได้ การที่โจทก์จะขอให้บังคับคดีในคดีแดงที่ 82/2498 อย่างไร ก็จะต้องไปดำเนินการในคดีนั้นเอง แต่โจทก์ก็หาได้ดำเนินเช่นนั้นไม่ศาลฎีกาพิพากษายืน