แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
จำเลยให้การแต่เพียงว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องเพราะจำเลยไม่ได้ผิดสัญญาเช่า ส่วนข้อที่ว่ามีการบอกเลิกสัญญาเช่าหรือไม่นั้น จำเลยไม่ได้ให้การต่อสู้ไว้ จำเลยจึงยกขึ้นอ้างอิงในชั้นฎีกาไม่ได้
ย่อยาว
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ขับไล่จำเลยและบริวารออกจากห้องพิพาทที่โจทก์ซื้อมาจากผู้ให้เช่าเดิม จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ที่จำเลยฎีกาว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องเพราะโจทก์ไม่ได้นำสืบว่าโจทก์ได้บอกเลิกสัญญาเช่าระหว่างจำเลยกับโจทก์ก่อนฟ้อง ซึ่งโจทก์จะต้องนำสืบให้ได้ความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 566 และข้อความในหนังสือบอกกล่าวมิได้มีข้อความว่าโจทก์บอกเลิกสัญญาเช่านั้น
พิเคราะห์แล้ว ตามคำให้การสู้คดีของจำเลย จำเลยให้การว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องเพราะจำเลยไม่ได้ผิดนัดสัญญาเช่า ประเด็นจึงมีว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องเพราะจำเลยผิดนัดสัญญาเช่าหรือไม่เท่านั้น ส่วนที่ว่ามีการบอกกล่าวเลิกสัญญาเช่าหรือไม่จำเลยไม่ได้ให้การต่อสู้ไว้ ไม่มีประเด็นจะยกขึ้นอ้างมาในชั้นฎีกาไม่ได้ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้ แต่ถึงอย่างไรก็ดีตามหนังสือสัญญาเช่าระหว่างจำเลยกับนายวรายุทธนั้น ปรากฏการกำหนดชำระค่าเช่าเป็นรายเดือน ในหนังสือที่โจทก์บอกเลิกการเช่านั้นมีข้อความระบุชัดว่าให้จำเลยและบริวารอพยพและมอบห้องพิพาทให้แก่โจทก์ภายในกำหนด 1 เดือน จึงถือว่าโจทก์ได้บอกเลิกสัญญาเช่าโดยชอบแล้ว ไม่มีเหตุที่จะต้องให้พิจารณาพิพากษาใหม่ดังฎีกาของจำเลย”
พิพากษายืน