คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 103/2530

แหล่งที่มา : ADMIN

ย่อสั้น

เจ้ามรดกขายที่นาซึ่งยังไม่มีหนังสือสำคัญแสดงกรรมสิทธิ์ให้แก่ผู้ซื้อโดยมอบการครอบครอง ถือว่าเจ้ามรดกได้สละสิทธิครอบครองไปแล้วที่นาดังกล่าวจึงมิใช่เป็นมรดกตกได้แก่ผู้ร้อง ซึ่งเป็นบุตรเจ้ามรดก ผู้ร้องไม่มีอำนาจร้องขอต่อศาลให้ตั้งผู้จัดการมรดกสำหรับที่นาดังกล่าว.(ที่มา-เนติ)

ย่อยาว

ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า เป็นบุตรนายจิน๊ะ หรือจินะ กับนางเผือซึ่งถึงแก่กรรมไปแล้วทั้งสองคน เมื่อพ.ศ.2520 บิดาผู้ร้องได้ขายที่นา 1 แปลง ให้แก่ผู้อื่นโดยไม่ได้จดทะเบียนโอน ผู้ร้องประสงค์จะโอนที่นาดังกล่าวให้แก่ผู้ครอบครองจึงขอให้ตั้งนายวิเชียร เป็นผู้จัดการมรดก เพื่อดำเนินการโอนที่นา ศาลชั้นต้นยกคำร้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ‘ปัญหามีว่าผู้ร้งอมีอำนาจยื่นคำร้องคดีนี้หรือไม่ ได้ความตามคำร้องว่า ผู้ตายได้ขายที่นาตามคำร้องโดยมอบการครอบครองนาให้แก่ผู้ซื้อไปตั้งแต่ พ.ศ. 2520ศาลฎีกาเห็นว่า ผู้ตายได้สละสิทธิการครอบครองที่นาดังกล่าวซึ่งเป็นที่ดินยังไม่มีหนังสือสำคัญแสดงกรรมสิทธิ์ให้แก่ผู้ซื้อตั้งแต่ปี พ.ศ. 2520 แล้ว ที่นาดังกล่าวจึงหาใช่เป็นมรดกตกได้แก่ผู้ร้องอย่างใดไม่ ผู้ร้องจึงไม่มีอำนาจที่จะร้องขอต่อศาลให้ตั้งผู้จัดการมรดกสำหรับที่ดินดังกล่าวที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกคำร้องนั้นศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยฎีกาผู้ร้องฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน’.

Share