แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยว่า พยานหลักฐานต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงโพยสลากกินรวบและเงินของกลางที่จับได้จากจำเลยประกอบกันแล้วฟังต้องกันว่า จำเลยเล่นการพนันสลากกินรวบโดยเป็นผู้ขายฝ่ายเจ้ามือ จำเลยฎีกาคัดค้านว่าเพียงแต่โพยสลากกินรวบเท่านั้นไม่พอฟังว่าเป็นการเล่นการพนันสลากกินรวบอันเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง หาใช่ฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายไม่ เมื่อศาลล่างทั้งสองลงโทษจำเลยไม่เกินอัตราโทษที่กำหนดไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 ฎีกาของจำเลยจึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกที่ยังจับตัวไม่ได้ ได้บังอาจเล่นการพนันสลากกินรวบพนันเอาทรัพย์สินกัน โดยจำเลยนี้เล่นพนันเป็นเจ้ามือรับกินใช้ผู้จำหน่ายสลากกินรวบส่วนพวกที่จับตัวไม่ได้เล่นการพนันเป็นลูกค้าผู้ซื้อสลากกินรวบ โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 4, 5, 10, 12, 15 ฯลฯ
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐานพยายามเล่นการพนันสลากกินรวบ โดยเป็นผู้ขายตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478มาตรา 4, 5, 10, 12, 15 ฯลฯ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 80 ลดรับสารภาพชั้นจับกุม สอบสวน 1 ใน 4 แล้ว คงจำคุก 3 เดือน ปรับ 1,500 บาท โทษจำคุกให้รอ 2 ปี ฯลฯ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดฐานเล่นการพนันสลากกินรวบ โดยมิได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478มาตรา 4, 5, 10, 12, 15 ฯลฯ นอกจากที่แก้นี้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น (ไม่ได้แก้โทษ)
จำเลยฎีกา
ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาในข้อกฎหมาย
ศาลฎีกาพิจารณาแล้ววินิจฉัยว่า คดีนี้ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยพยานบุคคลและพยานเอกสารต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงโพยสลากกินรวบและเงินของกลางที่จับได้จากจำเลย ที่โจทก์นำสืบประกอบกันแล้วฟังต้องกันว่า จำเลยเล่นการพนันสลากกินรวบโดยเป็นผู้ขายฝ่ายเจ้ามือ จำเลยฎีกาคัดค้านว่าเพียงแต่โพยสลากกินรวบเท่านั้นไม่พอฟังว่าเป็นการเล่นการพนันสลากกินรวบอันเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง หาใช่ฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายไม่ ฎีกาจำเลยต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 ศาลฎีกาจึงไม่รับวินิจฉัย
พิพากษาให้ยกฎีกาจำเลย