แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การมียาสูบผลิตในต่างประเทศที่มิได้ปิดแสตมป์ยาสูบไว้ในครอบครองกับการที่ยาสูบที่มิได้ปิดแสตมป์ยาสูบรายเดียวกันนั้นไว้เพื่อขาย เป็นความผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ต้องใช้กฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดลงโทษจำเลย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกร่วมกันมีไว้เพื่อขายซึ่งยาสูบที่ผลิตในต่างประเทศจำนวนน้ำหนักเกินกว่า ๕๐๐ กรัม ที่มิได้ปิดแสตมป์ยาสูบตามพระราชบัญญัติยาสูบ พ.ศ. ๒๕๐๙ เป็นบุหรี่ซิกาแรต มีน้ำหนักรวม ๓๓,๑๗๐ กรัม จะต้องปิดแสตมป์ยาสูบเป็นเงิน ๓,๙๘๐.๔๐ บาท ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติยาสูบ พ.ศ. ๒๕๐๙ มาตรา ๔,๑๙,๒๔,๔๔,๔๙,๕๐ พระราชบัญญัติยาสูบ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๐๒ มาตรา ๑๗,๑๘ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๓ และสั่งริบของกลาง
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาสูบ พ.ศ. ๒๕๐๙ มาตรา ๑๙,๔๙ ปรับ ๓๙,๘๐๔ บาท มาตรา ๒๔,๕๐ ปรับ ๕๙,๗๐๖ บาท รวมกระทงลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๑ ปรับ ๙๙,๕๑๐ บาท จำเลยรับสารภาพลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ กึ่งหนึ่ง คงปรับ ๔๙,๗๕๕ บาท ริบของกลาง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาสูบ พ.ศ. ๒๕๐๙ มาตรา ๑๙,๒๔,๔๙,๕๐ พระราชบัญญัติยาสูบ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๑๒ มาตรา ๑๗,๑๘ อันเป็นความผิดกรรมเดียว เป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษบทหนักฐานมีไว้เพื่อขายยาสูบซึ่งมิได้ปิดสแตมป์ยาสูบตามมาตรา ๒๔,๕๐ ให้ปรับเป็นเงินสิบห้าเท่าของค่าแสตมป์ยาสูบที่จะต้องปิดรวมเป็นเงิน ๕๙,๗๐๖ บาท จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ คงปรับ ๒๙,๘๕๓ บาท ไม่ชำระค่าปรับให้กักขังแทนมีกำหนด ๑ ปี ๒ เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกาว่า การมียาสูบที่มิได้ปิดแสตมป์ยาสูบไว้ในครอบครองกับการมียาสูบที่มิได้ปิดแสตมป์ยาสูบไว้เพื่อขาย เป็นความผิดสองกรรม ศาลต้องลงโทษจำเลยทุกกรรมเป็นกระทงความผิด
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ยาสูบผลิตในต่างประเทศของกาลางที่มิได้ปิดแสตมป์ยาสูบซึ่งจำเลยมีไว้เพื่อขาย ก็คือยาสูบผลิตใน
ต่างประเทศที่มิได้ปิดแสตมป์ยาสูบซึ่งจำเลยมีอยู่ในความครอบครองนั่นเอง มิใช่ยาสูบผลิตในต่างประเทศรายอื่นที่จำเลยมีไว้เพื่อขายแต่อย่างใด การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดกรรมเดียว แต่เป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ต้องใช้กฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดลงโทษจำเลย มิใช่ความผิดสองกรรม
พิพากษายืน.