คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4765/2529

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ถูกรถยนต์ของจำเลยชนแล้วหลบหนี จำเลยปกปิดชื่อและที่อยู่ของผู้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าว โจทก์จึงได้ฟ้องขอให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายในฐานะเป็นเจ้าของหรือผู้ครอบครองรถยนต์ แม้ศาลชั้นต้นชี้สองสถานกำหนดวันนัดสืบพยานโจทก์แล้ว แต่เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏแก่โจทก์ตามสำนวนการสอบสวนของพนักงานอัยการที่ส่งศาลตามหมายเรียกว่า ผู้ขับขี่รถยนต์ชนโจทก์เป็นลูกจ้างและกระทำการในทางการที่จ้างของจำเลย ดังนี้ ถือได้ว่าโจทก์เพิ่งทราบความจริงภายหลังจากการชี้สองสถานและไม่อาจยื่นคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมฟ้องได้ก่อนหน้านั้นโจทก์จึงมีสิทธิขอแก้ไขเพิ่มเติมฟ้องเป็นให้จำเลยรับผิดชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ในฐานะนายจ้างของผู้ทำละเมิดต่อโจทก์หลังวันชี้สองสถานแล้วได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายเพราะถูกรถยนต์ของจำเลยหรือจำเลยเป็นผู้ครอบครองอยู่ชน โดยรถยนต์ดังกล่าวชนโจทก์แล้วหลบหนีไปและจำเลยปกปิดไม่ยอมบอกชื่อและที่อยู่ของผู้ขับขี่รถยนต์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ
จำเลยให้การว่า ขณะเกิดเหตุรถยนต์ดังกล่าวไม่ได้อยู่ในความครอบครองของจำเลย แต่อยู่กับบุคคลภายนอกซึ่งยืมไปประกอบการขนส่งในกิจการของบุคคลนั้นเอง
ศาลชั้นต้นชี้สองสถานกำหนดให้โจทก์นำสืบก่อน ครั้นถึงวันนัดโจทก์ขอเลื่อนคดีอ้างว่าขอหมายเรียกพยานเอกสารสำคัญไว้คงจะมาไม่ทันศาลอนุญาต เมื่อถึงวันสืบพยานโจทก์นัดต่อมา โจทก์ขอเลื่อนการสืบพยานอีก และยื่นคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมฟ้อง อ้างว่าโจทก์ได้รับสำนวนการสอบสวนจากพนักงานอัยการที่ส่งศาลตามหมายเรียก จึงทราบว่าผู้ขับขี่รถยนต์ชนโจทก์เป็นลูกจ้างและกระทำการในทางการที่จ้างของจำเลย ขอแก้ไขเพิ่มเติมฟ้องเป็นว่า ให้จำเลยรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ในฐานะนายจ้างผู้ทำละเมิดต่อโจทก์
ศาลชั้นต้นเห็นว่า โจทก์ควรจะได้รู้และขอแก้ไขเพิ่มเติมฟ้องได้ก่อนวันชี้สองสถานและก่อนวันสืบพยาน จึงไม่อนุญาต
โจทก์อนุญาต
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ อนุญาตให้โจทก์แก้ไขเพิ่มเติมฟ้องได้ตามขอ
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปรากฏตามฟ้องของโจทก์ว่า โจทก์ได้รับความเสียหายเนื่องจากถูกรถยนต์ของจำเลยชน หลังเกิดเหตุแล้วคนขับรถของจำเลยขับรถหลบหนีไป จำเลยปกปิดชื่อและที่อยู่ของผู้ขับรถยนต์คันดังกล่าวและตามคำให้การของจำเลยก็ยอมรับว่าขณะเกิดเหตุบุคคลภายนอกเป็นผู้ขับรถของจำเลย แต่จำเลยไม่ยอมเปิดเผยชื่อ ซึ่งเป็นการยากที่โจทก์จะทราบชื่อและที่อยู่คนขับรถของจำเลยได้ก่อนฟ้องคดีนี้ ข้อเท็จจริงเพิ่งปรากฏแก่โจทก์เมื่อได้รับสำนวนการสอบสวนจากพนักงานอัยการ สำนวนการสอบสวนดังกล่าวเป็นเอกสารราชการ ซึ่งโจทก์ไม่อาจจะตรวจดูได้ เว้นแต่จะขอหมายเรียกจากศาล ฟังได้ว่าโจทก์เพิ่งทราบข้อเท็จจริงเรื่องชื่อและที่อยู่คนขับรถของจำเลยคันที่ชนโจทก์ในวันเกิดเหตุเมื่อวันที่โจทก์ได้รับสำนวนการสอบสวนดังกล่าว ซึ่งข้อเท็จจริงนี้โจทก์ไม่มีโอกาสทราบก่อนนี้ได้ ศาลฎีกาเห็นว่าตามคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมฟ้องของโจทก์เป็นเรื่องที่โจทก์เพิ่งทราบความจริงภายหลังจากการชี้สองสถานแล้ว ฉะนั้น โจทก์จึงมีสิทธิขอแก้ไขเพิ่มเติมฟ้องหลังจากการชี้สองสถานแล้วได้ เพราะเป็นข้อที่โจทก์ไม่อาจยื่นคำร้องนั้นได้ก่อนวันชี้สองสถาน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๘๐ (๒)

Share