คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 844/2524

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องเรียกถอนคืนการให้เพราะเหตุเนรคุณ โดยบรรยายว่าทำนิติกรรมจดทะเบียนยกที่ดินให้สามีจำเลยด้วย เมื่อโจทก์มิได้ฟ้องสามีจำเลยว่า ประพฤติเนรคุณขอให้เรียกถอนคืนการให้ในส่วนที่เป็นกรรมสิทธิ์ของสามีจำเลย จึงต้องพิพากษาให้จำเลยโอนคืนเฉพาะส่วนที่โจทก์ยกให้เป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยเท่านั้น เมื่อเรียกถอนคืนการให้ได้เฉพาะส่วนของจำเลย ก็ไม่มีเหตุที่จะกำหนดค่าเสียหายเพิ่มให้โจทก์รวมถึงส่วนที่ยกให้สามีจำเลย

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินตามบัญชีทรัพย์ท้ายฟ้องอันดับที่ 1, 2, 3 คืนให้โจทก์ กับให้ใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ปีละ 7,500 บาท ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินตามบัญชีทรัพย์ท้ายฟ้องอันดับที่ 1 ที่ 3 และเฉพาะส่วนของจำเลยในที่ดินอันดับที่ 2 เนื่องจากที่ดินแปลงนี้สามีจำเลยมีส่วนเป็นเจ้าของครึ่งหนึ่งคืนให้แก่โจทก์ให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ปีละ 6,500 บาท โจทก์จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “โจทก์ฎีกาเกี่ยวกับที่ดินมีโฉนดตราจองตามบทบัญญัติบัญชีทรัพย์ท้ายฟ้องอันดับที่ 2 ว่าต้องถอนคืนการให้ทั้งแปลงมิใช่เฉพาะส่วนของจำเลยดังที่ศาลอุทธรณ์พิพากษา ข้อนี้เห็นว่าตามฟ้องโจทก์บรรยายฟ้องว่าทำนิติกรรมจดทะเบียนยกที่ดินแปลงนี้ให้สามีจำเลยด้วย เมื่อโจทก์มิได้ฟ้องสามีจำเลยว่าประพฤติเนรคุณ ขอให้เรียกถอนคืนการให้ในส่วนที่เป็นกรรมสิทธิ์ของสามีจำเลย จึงต้องพิพากษาให้จำเลยโอนคืนเฉพาะส่วนที่โจทก์ยกให้เป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยเท่านั้น เมื่อเรียกถอนคืนการให้ได้เฉพาะส่วนของจำเลย ก็ไม่มีเหตุที่จะกำหนดค่าเสียหายเพิ่มให้โจทก์รวมถึงส่วนที่ยกให้สามีจำเลยดังที่โจทก์ฎีกา”

พิพากษายืน

Share