คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6560/2540

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นเฉพาะโทษที่ลงแก่จำเลยทั้งสามมิได้แก้บทมาตราด้วยเป็นการแก้ไขเล็กน้อยและให้ลงโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี จึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคแรก ข้ออ้างที่จำเลยทั้งสามฎีกาว่าโจทก์มีผู้เสียหายเป็นประจักษ์พยาน เพียงปากเดียวและไม่พบของกลาง ส่วนจำเลยทั้งสามมี ประจักษ์พยาน 2 ปากยืนยันว่าจำเลยทั้งสามไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย พยานหลักฐานโจทก์จึงไม่สามารถเอาผิดแก่จำเลยทั้งสามได้นั้นเป็น การโต้เถียงดุลพินิจของศาลอุทธรณ์ในการรับฟังพยานหลักฐาน เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง สำหรับข้ออ้างที่จำเลยทั้งสามฎีกาว่า ผู้เสียหายสมัครใจเข้าต่อสู้กับฝ่ายจำเลยจึงมิใช่ผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2(4) โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องนั้น เป็นการโต้เถียงดุลพินิจของศาลอุทธรณ์ที่รับฟังว่าจำเลยทั้งสามร่วมกันทำร้ายผู้เสียหายเพื่อนำไปสู้การวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง

ย่อยาว

คดีทั้งสองสำนวนนี้ ศาลชั้นต้นสั่งให้รวมพิจารณาเป็นคดีเดียวกันโดยให้เรียกจำเลยในสำนวนแรกว่าจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 และเรียกจำเลยในสำนวนหลังว่าจำเลยที่ 3
โจทก์ทั้งสองสำนวนฟ้องจำเลยทั้งสามทำนองเดียวกัน ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 339, 340 ให้จำเลยทั้งสามร่วมกันคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ 12,535 บาท แก่เจ้าของด้วย
จำเลยทั้งสามให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสามมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 ประกอบมาตรา 83จำคุกคนละ 2 ปี เฉพาะจำเลยที่ 1 ยังมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335(1) วรรคแรกอีกกระทงหนึ่ง จำคุก 2 ปี รวมจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 4 ปีชั้นจับกุมจำเลยที่ 1 และที่ 2 ให้การรับสารภาพและทางนำสืบของจำเลยที่ 3 เป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้หนึ่งในสี่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78คงจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 3 ปี จำคุกจำเลยที่ 2 และที่ 3มีกำหนดคนละ 1 ปี 6 เดือน ให้จำเลยที่ 1 คืนหรือใช้ราคาทรัพย์จำนวน 12,535 บาท แก่เจ้าของ คำขออื่นให้ยก
จำเลยทั้งสามอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ฐานทำร้ายร่างกายให้จำคุกจำเลยทั้งสามคนละ 6 เดือน ฐานลักทรัพย์ให้จำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด1 ปี รวมจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 1 ปี 6 เดือน ลดโทษให้จำเลยทั้งสามคนละหนึ่งในสี่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุกจำเลยที่ 2 และที่ 3 คนละ 4 เดือน 15 วัน จำคุกจำเลยที่ 1มีกำหนด 1 ปี 1 เดือน 15 วัน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยทั้งสามฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีนี้ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นเฉพาะโทษที่ลงแก่จำเลยทั้งสาม มิได้แก้บทมาตราด้วยเป็นการแก้ไขเล็กน้อยและให้ลงโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี จึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคแรกที่จำเลยทั้งสามฎีกาว่า โจทก์มีผู้เสียหายเป็นประจักษ์พยานเพียงปากเดียวและไม่พบของกลาง ส่วนจำเลยทั้งสามมีประจักษ์พยาน 2 ปากยืนยันว่าจำเลยทั้งสามไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย พยานหลักฐานโจทก์จึงไม่สามารถเอาผิดแก่จำเลยทั้งสามได้นั้น เป็นการโต้เถียงดุลพินิจของศาลอุทธรณ์ในการรับฟังพยานหลักฐานเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง และที่จำเลยทั้งสามฎีกาว่า ผู้เสียหายสมัครใจเข้าต่อสู้กับฝ่ายจำเลยจึงมิใช่ผู้เสียหาย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2(4) โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องนั้น เป็นการโต้เถียงดุลพินิจของศาลอุทธรณ์ที่รับฟังว่าจำเลยทั้งสามร่วมกันทำร้ายผู้เสียหาย เพื่อนำไปสู่การวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมาย จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงเช่นเดียวกันฎีกาของจำเลยทั้งสามดังกล่าวต้องห้ามตามบทกฎหมายดังกล่าวข้างต้น ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย”
พิพากษายกฎีกาของจำเลยทั้งสาม

Share