คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2756/2526

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยรับประกันภัยความเสียหายอันเกิดจากการตอกเสาเข็มของโจทก์ในงานก่อสร้างอาคารที่โจทก์เป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง โจทก์ทำการตอกเสาเข็มเกิดการสั่นสะเทือนทำให้อาคารและทรัพย์สินของผู้อื่นแตกร้าวเสียหาย โจทก์แจ้งให้จำเลยทราบในฐานะผู้รับประกันภัยแต่จำเลยปฏิเสธความรับผิดตามสัญญาประกันภัยทำให้โจทก์ถูกบุคคลดังกล่าวฟ้องเรียกค่าเสียหาย คำฟ้องดังกล่าวมีข้อโต้แย้งเกิดขึ้นเกี่ยวกับสิทธิตามสัญญาประกันภัยระหว่างโจทก์จำเลยแล้ว โจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง แม้คดีที่โจทก์ถูกฟ้องศาลจะยังมิได้พิพากษา จึงไม่แน่ว่าโจทก์จะต้องรับผิดก็ตาม เพราะโจทก์เสียหายอย่างไรหรือไม่ เป็นเรื่องที่จะต้องนำสืบกันในชั้นพิจารณาหาใช่เรื่องอำนาจฟ้องไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยตกลงรับประกันภัยความเสียหายอันเกิดจากการตอกเสาเข็มของโจทก์ในงานก่อสร้างอาคารสำนักงานใหญ่ธนาคารกรุงไทย จำกัดรวมทั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่บุคคลภายนอกด้วย โจทก์ตอกเสาเข็มเกิดการสั่นสะเทือนทำให้อาคารและทรัพย์สินของผู้มีชื่อแตกร้าวเสียหาย โจทก์แจ้งให้จำเลยในฐานะผู้รับประกันภัยทราบ แต่จำเลยปฏิเสธความรับผิด ต่อมาโจทก์ถูกบุคคลดังกล่าวฟ้องเรียกค่าเสียหายเป็นเงินสองล้านบาทเศษ จำเลยต้องรับผิดในเงินจำนวนนี้ ขอให้ศาลพิพากษาและบังคับให้จำเลยชำระเงินจำนวนดังกล่าวแก่โจทก์

จำเลยให้การปฏิเสธความรับผิด และต่อสู้ด้วยว่าค่าเสียหายตามฟ้องเป็นเพียงการคาดหมายเพราะคดีที่โจทก์ถูกฟ้องอยู่ในระหว่างการพิจารณา โจทก์ยังไม่เสียหาย ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นเห็นว่าคดีพอวินิจฉัยได้โดยไม่ต้องสืบพยาน จึงให้งดสืบพยานโจทก์จำเลย แล้ววินิจฉัยว่า ยังไม่แน่ว่าโจทก์จะต้องรับผิดใช้ค่าเสียหายตามที่ถูกฟ้องหรือไม่ โจทก์ยังไม่ได้รับความเสียหายจึงไม่มีสิทธิฟ้อง พิพากษายกฟ้องโจทก์

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์ฟ้องมีใจความว่า จำเลยตกลงรับประกันภัยความเสียหายอันเกิดจากการตอกเสาเข็มของโจทก์ในงานก่อสร้างอาคารสำนักงานใหญ่ธนาคารกรุงไทย จำกัด รวมทั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่บุคคลภายนอก ปรากฏตามกรมธรรม์ประกันภัย 2 ฉบับ ซึ่งโจทก์จะได้ส่งศาลในชั้นพิจารณา โจทก์ทำการตอกเสาเข็มเกิดการสั่นสะเทือนทำให้อาคารและทรัพย์สินอย่างอื่นของนางซารา หรือซาราบีบี เอ นานา นายแดง นานา และนางทัศนีย์ งานทวี แตกร้าวเสียหาย โจทก์แจ้งให้จำเลยทราบในฐานะผู้รับประกันภัย แต่จำเลยไม่ได้จัดการอย่างหนึ่งอย่างใด กลับปฏิเสธความรับผิดตามสัญญาประกันภัย ทำให้โจทก์ถูกบุคคลดังกล่าวฟ้องเรียกค่าเสียหาย โจทก์จึงฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้ศาลฎีกาเห็นว่าคำฟ้องดังกล่าวมีข้อโต้แย้งเกิดขึ้นเกี่ยวกับสิทธิตามสัญญาประกันภัยระหว่างโจทก์จำเลยแล้ว โจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง ที่จำเลยฎีกาว่าคดี 2 สำนวนที่โจทก์ถูกฟ้องศาลยังไม่ได้พิพากษาจึงไม่แน่ว่าโจทก์จะต้องรับผิด โจทก์ยังไม่ได้รับความเสียหายนั้น เห็นว่าโจทก์เสียหายอย่างไรหรือไม่เป็นเรื่องที่จะต้องนำสืบกันในชั้นพิจารณา หาใช่เรื่องอำนาจฟ้องไม่

พิพากษายืน

Share