คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 812/2492

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้รับโอนที่ดินเป็นชาวจีน แต่มิได้ปฏิบัติให้ถูกต้องตาม พ.ร.บ.ที่ดินในส่วนที่เกี่ยวแก่คนต่างด้าว พ.ศ. 2485 มาตรา 5, 6 จึงไม่มีสิทธิจะรับโอนที่ดิน สัญญาจะซื้อขายที่ทำขึ้นไว้ ก็ใช้บังคับไม่ได้
โจทก์ได้ทำสัญญาจะขายที่ดินให้แก่จำเลย และได้รับเงินค่าที่ดินไว้จากจำเลยเต็มจำนวนราคาขายแล้ว เมื่อศาลพิพากษาให้ทำลายนิติกรรมการซื้อขายเสีย ตามพฤตติการณ์ดังนี้ โจทก์ไม่ควรได้ค่าเสียหายอีก

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ที่ ๑ ทำสัญญาจะขายที่ดินพร้อมทั้งสิ่งปลูกสร้างให้แก่จำเลยที่ ๑ และได้รับเงินไปแล้ว แต่ปรากฎว่าจำเลยที่ ๑ เป็นชาวจีนไม่มีสิทธิรับโอนกรรมสิทธิที่ดินได้ตาม พ.ร.บ.ที่ดินในส่วนที่เกี่ยวกับคนต่างด้าว ๒๔๘๕ มาตรา ๕ โจทก์ที่ ๑ ได้บอกเลิกนิติกรรมการซื้อขาย และให้จำเลยที่ ๑ มารับเงินคืน ครั้นเดือนมกราคม ๒๔๘๕ จำเลยทั้งสามสมคบกันปลอมใบมอบอำนาจที่โจทก์ที่ ๒ ทำให้แก่นายเซียทง เพื่อจัดการโอนให้จำเลยที่ ๑ เป็นว่าโอนให้แก่จำเลยที่ ๓ คณะกรมการอำเภอขอนแก่นหลงเชื่อ จึงทำนิติกรรมจดทะเบียนการโอนให้แก่จำเลยที่ ๓ จึงขอให้ศาลสั่งทำลายนิติกรรมการจดทะเบียนการโอน และเรียกค่าเสียหาย และให้จำเลยที่ ๑ รับเงิน ๓๔๐๐๐ บาท ไปจากโจทก์ จำเลยต่อสู้ว่า โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องขอให้ทำลายนิติกรรมและบอกเลิกสัญญาซื้อขายรายนี้ ทั้งโจทก์ไม่ได้รับความเสียหายและขาดประโยชน์ ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้โจทก์ชนะคดี
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยที่ ๑ ไม่มีสิทธิจะรับโอนที่ดิน เพราะเป็นคนต่างด้าวมิได้ปฏิบัติให้ถูกต้องตาม พ.ร.บ.ที่ดินในส่วนที่เกี่ยวแก่คนต่างด้าว ๒๔๘๕ มาตรา ๕,๖ สัญญาจะซื้อขายระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ ๑ จึงใช้บังคับไม่ได้ การที่จำเลยที่ ๒ ผู้รับมอบอำนาจโจทก์แก้ชื่อผู้ซื้อ คือจำเลยที่ ๑ แล้วใส่ชื่อจำเลยที่ ๓ เป็นผู้รับโอนก็ไม่ทำให้รูปคดีเปลี่ยนแปลง เพราะปรากฎตามเอกสารหมาย ๑๑ ว่าการที่จำเลยที่ ๓ รับโอนที่ดินนั้น เป็นเพียงตัวแทนจำเลยที่ ๑ ซึ่งเป็นการขัดและหลีกเลี่ยง พ.ร.บ.ที่กล่าว
ส่วนค่าเสียหายเห็นว่า โจทก์ตกลงขาย และได้รับเงินไว้เต็มจำนวนราคาขายแล้ว ตามพฤตติการณ์โจทก์ไม่ควรได้ค่าเสียหาย
พิพากษาแก้ในข้อที่บังคับให้จำเลยใช้ค่าเสียหาย

Share