คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1478/2492

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ได้ทำสัญญาจำนองที่นาไว้กับจำเลย โดยมอบนาให้ทำต่างดอกเบี้ย ต่อมาโจทก์ต้องการเงิน ได้ตกลงจะขายที่นาให้แก่จำเลย แต่การขายต้องรังวัดและประกาศโฆษณา โจทก์ต้องการเงินด่วนจึงได้ทำกรมธรรมสัญญา เป็นการเพิ่มเงินจำนอง ดังนี้เป็นการเปลี่ยนแปลงแก้และเลิกข้อความตกลงเรื่องซื้อขายมาทำเป็นจำนองแล้ว จะนำสืบถึงการซื้อขายอีกก็ไม่เป็นประโยชน์แก่คดี
ทำกรมธรรม์จำนองที่นาแต่มอบที่นาให้ทำต่างดอกเบี้ยเมื่อใช้ ป.ม.แพ่งฯบรรพ 3 แล้ว ไม่เป็นการให้สัญญาจำนองกลับกลายเป็นสัญญาขายฝากได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ได้กู้เงินจำเลย ๒๐๐ บาท เอานา ๑ แปลงไปจำนองไว้กับจำเลย โดยมอบนาให้จำเลยทำต่างดอกเบี้ยมาแต่เริ่มแรก กำหนดการไถ่ถอน ๕ ปี ต่อมาโจทก์ได้เอาเงินเพิ่มจากจำเลยอีก ๔๐ บาท คงถือปฏิบัติตามสัญญาเดิม เมื่อครบ ๕ ปีโจทก์ไปไถ่ถอนที่นาจำเลยขอผัดไว้ เมื่อประมาณ ๒ เดือนมานี้ โจทก์ไปขอไถ่คืน จำเลยไม่ยอมให้ไถ่จึงขอให้บังคับจำเลยรับเงิน ๒๔๐ บาท คืนนาให้โจทก์ จำเลยให้การว่า โจทก์ได้ทำสัญญาจำนองที่พิพาทไว้ ๒๐๐ บาทจริง ต่อมาโจทก์ได้ตกลงขายขาดโดยขอเพิ่มเงินอีก ๔๐ บาท ได้พากันไปทำหนังสือสัญญาต่ออำเภอ ทางอำเภอแจ้งว่าจะต้องชัณสูตรรังวัดและประกาศโฆษณาตามระเบียบ แต่โจทก์ต้องการเงินด่วน จึงเพียงแต่สลักหลังสัญญาเพิ่มเงินให้โจทก์รับไปก่อน หนี้ระหว่างโจทก์จำเลยเปลี่ยนแปลงไปแล้วตาม ป.ม.แพ่งฯ มาตรา ๓๔๕ โจทก์หมดสิทธิที่จะไถ่คืน แม้จะไม่ฟังว่าขายขาด การที่โจทก์+ให้จำเลยทำกินต่างดอกเบี้ย ต้องถือว่าเป็นการขายฝาก โจทก์ไม่เคยมาขอไถ่คืนเมื่อครบกำหนด ๕ ปี โจทก์หมดสิทธิไถ่คืนและคดีของโจทก์ขาดอายุความแล้ว วันชี้สองสถานคู่ความรับกันว่า นารายพิพาทเป็นที่นามือเปล่า และจำเลยแถลงรับในข้อ ตามคำให้การของจำเลยว่า เดิมทำจำนองกัน ต่อมาโจทก์ตกลงขายขาดนารายพิพาทให้แก่จำเลยโดยเอาเงินเพิ่มอีก ๔๐ บาท แต่ไม่ได้ทำหนังสือสัญญาขายขาดกัน เพราะโจทก์ต้องการเงินด่วน แต่ได้ตกลงกันด้วยปากเปล่าก่อนไปทำสัญญาที่อำเภอว่าเป็นการขายขาด ซึ่งจำเลยจะขอสืบตามนี้ ศาลชั้นต้นให้งดสืบพะยานทั้งสองฝ่าย แล้วพิพากษาให้โจทก์ชนะคดี ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกาว่า จำเลยจะขอสืบว่าได้มีการขายขาดต่อกันแล้วได้หรือไม่ และสัญญาจำนองที่ผู้จำนองทำนาต่างดอกเบี้ย จะถือว่าแปลงหนี้ใหม่มาเป็นสัญญาขายฝากได้หรือไม่
ศาลฎีกาเห็นว่า แม้ก่อนทำสัญญาเพิ่มเงินจำนอง โจทก์จะได้ตกลงขายที่รายพิพาทให้แก่จำเลยก็ดี แต่เมื่อเกิดขัดข้องด้วยต้องรังวัดและประกาศโฆษณา แต่ต้องการเงินด่วนจึงได้ทำกรมธรรม์สัญญาเป็นการเพิ่มเงินจำนอง ดังนี้ เป็นการแก้และเลิกข้อตกลงเรื่องซื้อขายมาทำเป็นจำนองแล้ว จะนำสืบการซื้อขายอีกก็ไม่เป็นประโยชน์แก่คดี ข้อที่จำเลยได้เถียงว่าเป็นเรื่องขายฝากนั้น กรมธรรม์รายนี้ทำเมื่อใช้ ป.ม.แพ่งฯ บรรพ ๓ แล้ว เรื่องนี้เป็นจำนอง ซึ่งโจทก์ผู้รับจำนองเอาที่รายพิพาท+ไว้แก่จำเลยผู้รับจำนอง เป็นประกันการชำระหนี้เท่านั้น แม้โจทก์จะได้มอบที่ดินให้จำเลยทำกินต่างดอกเบี้ย ก็ไม่ทำให้การรับจำนองกลับกลายเป็นการขายฝาก
พิพากษายืน

Share