คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4536/2543

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ผู้ดำเนินการจับกุมและตรวจค้นคือร้อยตำรวจเอก ศ. ซึ่งสืบทราบ และวางแผนจับกุมจำเลย โดยไปซุ่มดูพฤติการณ์ของจำเลยในการจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนให้แก่ผู้ขับรถบรรทุก จากการตรวจค้นพบเมทแอมเฟตามีน2 เม็ด อยู่ใต้กล่องยากันยุงบนชั้นวางของใกล้กับที่นั่งของจำเลย กรณีจึงมีเหตุอันควรสงสัยว่ามียาเสพติดซุกซ่อนอยู่ในห้องพักอันเป็น ที่รโหฐานนั้น ประกอบมีเหตุอันควรเชื่อว่าหากไม่ดำเนินการทันที ยาเสพติดอาจถูกโยกย้าย เมื่อแสดงบัตรประจำตัวเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ให้จำเลยดูแล้ว ร้อยตำรวจเอก ศ. จึงมีอำนาจตรวจค้นเคหสถาน และจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดได้โดยไม่ต้องมีหมายจับ หรือหมายค้นตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามยาเสพติดฯ มาตรา 14 กรณีจึงไม่ต้องพิจารณาว่ามีเหตุที่ค้นได้โดยไม่ต้องมีหมายค้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 92(1)-(5)หรือไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษพ.ศ. 2522 มาตรา 15, 66, 67, 102 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33 และริบของกลางที่เจ้าพนักงานเก็บรักษาไว้

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ 2522 มาตรา 15 วรรคหนึ่ง, 66 วรรคหนึ่ง ให้จำคุก 5 ปี ทางนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 3 ปี 4 เดือน ริบของกลาง

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 7 พิพากษายืน

จำเลยฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ในวันเวลาและสถานที่เกิดเหตุตามฟ้อง เจ้าพนักงานตำรวจค้นร้านอาหารโกแดงเมืองตรังของจำเลยซึ่งตั้งอยู่ในปั๊มน้ำมันดอนกลางออยล์ พบเมทแอมเฟตามีน 2 เม็ด บรรจุอยู่ในหลอดกาแฟปิดหัวท้ายซุกซ่อนอยู่ใต้กล่องยากันยุงบนชั้นวางของใกล้กับที่จำเลยนั่ง และตรวจค้นห้องพักของจำเลยพบหลอดกาแฟสีขาวที่ยังไม่ได้ตัด 12 หลอด หลอดกาแฟที่ตัดเป็นท่อน ๆ แล้ว 13 ท่อน เทียนไขใช้แล้ว 1 เล่ม และธนบัตรจำนวน 26,000 บาทเศษ จึงยึดไว้เป็นของกลาง จำเลยรับว่าของกลางดังกล่าวเป็นของจำเลยจริง ปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยมีว่าจำเลยมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายหรือไม่ โจทก์มีร้อยตำรวจเอกศรายุทธ คงทอง และสิบตำรวจตรีโดม ฤทธิเดช เป็นพยานเบิกความประกอบกันว่า ก่อนทำการจับกุมประมาณ 1 เดือน ได้สืบทราบมาก่อนว่าจำเลยลักลอบจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนตามรายงานข่าวสาร วันเกิดเหตุได้วางแผนจับกุม โดยไปซุ่มดูพฤติการณ์ของจำเลยห่างจากร้านจำเลยประมาณ 30 เมตร เห็นรถบรรทุกสิบล้อประมาณ 3 ถึง 4 คัน ขับมาจอดที่หน้าร้านจำเลยโดยไม่ได้เติมน้ำมันแล้วคนขับรถบรรทุกสิบล้อเข้าไปส่งธนบัตรให้จำเลยแล้วจำเลยเอี้ยวตัวไปหยิบสิ่งของจากชั้นวางของด้านหลังส่งให้ เชื่อว่าจำเลยจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนให้คนขับรถบรรทุกสิบล้อจึงเข้าไปแสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานตำรวจ และร้อยตำรวจเอกศรายุทธได้แสดงบัตรประจำตัวเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ขอตรวจค้นและพบของกลางดังกล่าวฝ่ายจำเลยมีตัวจำเลย นางเฉลียว ทองใบ ภรรยาของจำเลยและนางหม่อน ศิริพรรณ ลูกจ้างของจำเลยเบิกความว่าเมทแอมเฟตามีน 2 เม็ด ของกลาง จำเลยมีไว้เพื่อเสพแก้ง่วงนอน หลอดกาแฟที่ยังไม่ได้ตัดไว้ใช้สำหรับดื่มเครื่องดื่ม หลอดกาแฟที่ตัดแล้วเป็นหลอดกาแฟที่ใช้บรรจุเมทแอมเฟตามีน จำเลยเสพเมทแอมเฟตามีนแล้วทิ้งไว้ เทียนไขใช้จุดเมื่อไฟฟ้าดับ ส่วนธนบัตรจำเลยได้มาจากการขายอาหารและเก็บไว้เป็นค่าเช่าร้านและค่าจ้างลูกจ้าง เห็นว่าจำเลยเบิกความรับว่าร้อยตำรวจเอกศรายุทธกับพวกได้ตรวจค้นพบเมทแอมเฟตามีน 2 เม็ด ที่ชั้นวางของ หลังจากนั้นจึงได้ไปค้นห้องพักของจำเลย จึงน่าเชื่อว่าร้อยตำรวจเอกศรายุทธและสิบตำรวจตรีโดมเห็นจำเลยหยิบสิ่งของจากชั้นวางของส่งให้คนขับรถบรรทุกสิบล้อ 3 ถึง 4 คนจริง จึงได้ทำการตรวจค้นที่ชั้นวางของเป็นจุดแรก ส่วนหลอดกาแฟจำนวน 12 หลอด และหลอดกาแฟที่ตัดเป็นท่อน ๆ แล้ว 13 ท่อน ที่พบในห้องพักของจำเลยก็เป็นชนิดและสีเดียวกันกับหลอดที่ใช้บรรจุเมทแอมเฟตามีนที่พบบนชั้นวางของ ไม่มีเหตุผลที่จำเลยจะทิ้งหลอดที่ใช้แล้วไว้ในห้องพัก ก่อนทำการจับกุม เจ้าพนักงานตำรวจก็ได้เฝ้าดูพฤติการณ์ของจำเลยมาก่อนและพบว่า จำเลยจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนจริงตามรายงานข่าวสาร โดยไม่ปรากฏว่าเจ้าพนักงานดังกล่าวมีสาเหตุโกรธเคืองอย่างใดกับจำเลย พยานหลักฐานโจทก์มีเหตุผลเพียงพอฟังได้ว่าจำเลยกระทำผิดจริงตามฟ้องที่จำเลยฎีกาว่าเจ้าพนักงานตำรวจจับและค้นห้องพักของจำเลยในยามวิกาลโดยไม่มีหมายจับและหมายค้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย แม้จำเลยเพิ่งยกขึ้นอ้างในชั้นฎีกา มิได้เป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ แต่ก็เป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย จำเลยจึงมีสิทธิฎีกา และเห็นว่า ในการจับกุมและตรวจค้นดังกล่าว มีร้อยตำรวจเอกศรายุทธเป็นผู้ดำเนินการหลังจากค้นพบเมทแอมเฟตามีน 2 เม็ด อยู่ใต้กล่องยากันยุงบนชั้นวางของใกล้กับที่นั่งของจำเลย กรณีจึงมีเหตุอันควรสงสัยว่ามียาเสพติดซุกซ่อนอยู่ในห้องพักอันเป็นที่รโหฐานนั้น ประกอบมีเหตุอันควรเชื่อว่า หากไม่ดำเนินการทันที ยาเสพติดอาจถูกโยกย้าย เมื่อร้อยตำรวจเอกศรายุทธได้แสดงบัตรประจำตัวเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ให้จำเลยดูแล้วร้อยตำรวจเอกศรายุทธจึงมีอำนาจตรวจค้นเคหสถานและจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในเวลากลางคืนหลังจากพระอาทิตย์ตกดินได้โดยไม่ต้องมีหมายจับหรือหมายค้นตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พ.ศ. 2519 มาตรา 14 ทั้งจำเลยก็ยินยอมให้เจ้าพนักงานตำรวจตรวจค้นแต่โดยดี การกระทำของเจ้าพนักงานตำรวจชอบด้วยกฎหมาย สิ่งของที่ค้นได้จึงใช้เป็นพยานหลักฐานได้ กรณีจึงไม่ต้องพิจารณาว่า มีเหตุที่ค้นได้โดยไม่ต้องมีหมายค้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 92(1)-(5) ตามที่จำเลยฎีกาหรือไม่ ฎีกาของจำเลยทุกข้อฟังไม่ขึ้น”

พิพากษายืน

Share