แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การที่ธนาคารเจ้าหนี้ให้ลูกหนี้ (จำเลย) ทำสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีไปในขณะที่ลูกหนี้ยังมิได้ชำระหนี้ตามคำพิพากษาตามยอมให้แก่ธนาคารเจ้าหนี้และลูกหนี้ไม่มีทรัพย์สินอย่างหนึ่งอย่างใดที่จะพึงยึดมาชำระหนี้ได้ แม้ธนาคารเจ้าหนี้จะเชื่อถือหลักประกันของลูกหนี้ก็เป็นที่เห็นได้ว่าลำพังเฉพาะตัวของลูกหนี้ไม่อยู่ในฐานะที่จะชำระหนี้ตามสัญญากู้เงินเกินบัญชีให้แก่ธนาคารเจ้าหนี้ได้ หนี้รายนี้จึงเป็นหนี้ที่ธนาคารเจ้าหนี้ผู้ขอรับชำระหนี้ยอมให้ลูกหนี้กระทำขึ้นเมื่อธนาคารเจ้าหนี้ได้รู้ถึงการที่ลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัว ธนาคาร เจ้าหนี้จึงไม่อาจขอรับชำระหนี้รายนี้ได้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483 มาตรา94(2)
ย่อยาว
คดีนี้สืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้จำเลยล้มละลาย ศาลชั้นต้นสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยเด็ดขาด ธนาคารมหานคร จำกัด เจ้าหนี้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ตามสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีและตามหนังสือรับสภาพหนี้ รวมเป็นเงิน 784,728 บาท 23 สตางค์ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีความเห็นว่า หนี้ตามหนังสือรับสภาพหนี้ เป็นหนี้ซึ่งเดิมเจ้าหนี้ผู้ขอรับชำระหนี้เป็นโจทก์ฟ้องบริษัทบางกอกอุตสาหกรรมจำกัด และลูกหนี้เป็นจำเลยร่วมกัน ให้รับผิดตามสัญญากู้และค้ำประกัน และศาลแพ่งได้มีคำพิพากษาตามสัญญาประนีประนอมยอมความ ให้บริษัทบางกอกอุตสาหกรรมจำกัด และลูกหนี้ร่วมกันรับผิด ใช้เงินให้แก่เจ้าหนี้ผู้ขอรับชำระหนี้ ภายในกำหนด 6 เดือนนับแต่วันทำยอม ตามสำนวนคดีของศาลแพ่งหมายเลขแดงที่ 4101/2508 นับแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษาตามยอม ถึงวันยื่นขอรับชำระหนี้คือวันที่ 13 ธันวาคม 2522 เป็นเวลาเกิน 10 ปี เจ้าหนี้ผู้ขอรับชำระหนี้ไม่มีสิทธิบังคับคดีเอาแก่ทรัพย์สินของลูกหนี้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 271 การที่ลูกหนี้ทำหนังสือรับสภาพหนี้ไม่ก่อให้เกิดสิทธิขึ้นใหม่ ส่วนหนี้ตามสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีเจ้าหนี้ผู้ขอรับชำระหนี้ยอมให้ลูกหนี้กระทำขึ้นเมื่อได้รู้ถึงการที่ลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัว เจ้าหนี้ผู้ขอรับชำระหนี้ไม่มีสิทธิขอรับชำระหนี้รายนี้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 94(1)(2)ควรยกคำขอรับชำระหนี้รายนี้
ศาลชั้นต้นสั่งให้ยกคำขอรับชำระหนี้รายนี้ตามความเห็นของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
เจ้าหนี้ผู้ขอรับชำระหนี้อุทธรณ์ขอให้ได้รับชำระหนี้เฉพาะจากหนี้สินตามสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชี
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
เจ้าหนี้ผู้ขอรับชำระหนี้ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาที่ว่า หนี้ตามสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีรายนี้เจ้าหนี้ผู้ขอรับชำระหนี้ยอมให้ลูกหนี้กระทำขึ้นเมื่อเจ้าหนี้ได้รู้ถึงการที่ลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัวหรือไม่ว่า ก่อนที่จำเลยหรือลูกหนี้จะได้ทำสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีรายนี้กับธนาคารเจ้าหนี้ จำเลยหรือลูกหนี้ได้ทำสัญญาค้ำประกัน การชำระหนี้ของบริษัทบางกอกอุตสาหกรรม จำกัดซึ่งกู้ยืมเงินจำนวน 690,640 บาท 03 สตางค์ ไปจากธนาคารเจ้าหนี้โดยยอมรับผิดอย่างลูกหนี้ร่วม ต่อมาบริษัทบางกอกอุตสาหกรรม จำกัดผู้กู้ผิดสัญญา ธนาคารเจ้าหนี้ได้เป็นโจทก์ฟ้องบริษัทบางกอกอุตสาหกรรมจำกัด และลูกหนี้เป็นจำเลยร่วมกันให้รับผิดตามสัญญากู้และค้ำประกันต่อศาลแพ่งแล้วได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันเมื่อวันที่ 19พฤศจิกายน 2508 โดยบริษัทบางกอกอุตสาหกรรม จำกัด และลูกหนี้ยอมร่วมกันรับผิดชดใช้เงินจำนวน 690,640 บาท 03 สตางค์ให้แก่ธนาคารเจ้าหนี้ ภายในกำหนด 6 เดือนนับแต่วันทำยอม และศาลแพ่งได้พิพากษาตามยอม คดีถึงที่สุดแล้วตามสำนวนคดีของศาลแพ่งหมายเลขแดงที่ 4101/2508 และได้ความจากนายอนันต์ จิระนภากุลวัฒน์ พนักงานของธนาคารเจ้าหนี้ ให้ถ้อยคำต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ว่า เมื่อครบกำหนดตามยอม บริษัทบางกอกอุตสาหกรรม จำกัด และลูกหนี้ไม่ชำระหนี้ ธนาคารเจ้าหนี้ได้ขอให้ศาลออกหมายบังคับคดีปรากฏว่าบริษัทบางกอกอุตสาหกรรม จำกัด ถูกฟ้องคดีล้มละลาย ส่วนลูกหนี้ได้หลบหนีไปและไม่มีทรัพย์สินที่จะให้บังคับคดี การที่จำเลยหรือลูกหนี้ได้หลบหนีไปเสียจากเคหะสถานที่เคยอยู่ หรือไม่มีทรัพย์สินอย่างหนึ่งอย่างใดที่จะพึงยึดมาชำระหนี้ได้นั้น ย่อมเป็นเหตุให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัวดังที่บัญญัติไว้ตามพระราชบัญญัติล้มละลายพุทธศักราช 2483 มาตรา 8 กรณีมิใช่เป็นเรื่องตั้งข้อสันนิษฐานโดยไม่มีกฎหมายรับรองดังที่ธนาคารเจ้าหนี้กล่าวอ้าง การที่ธนาคารเจ้าหนี้ให้จำเลยหรือลูกหนี้ทำสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีรายนี้ ทั้ง ๆ ที่ขณะนั้นลูกหนี้ยังมิได้ชำระหนี้ตามคำพิพากษาตามยอมในคดีดังกล่าวให้แก่ธนาคารเจ้าหนี้และลูกหนี้ก็ไม่มีทรัพย์สินอย่างหนึ่งอย่างใดที่จะพึงยึดมาชำระหนี้ได้ แม้ธนาคารเจ้าหนี้จะเชื่อถือในหลักประกันของลูกหนี้คือบุคคลผู้ค้ำประกันและโฉนดที่ดินที่ผู้ค้ำประกันนำมาให้ธนาคารเจ้าหนี้ยึดถือไว้ ก็เป็นที่เห็นได้ว่าลำพังเฉพาะตัวของลูกหนี้ไม่อยู่ในฐานะที่จะชำระหนี้ตามสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีให้แก่ธนาคารเจ้าหนี้ได้ หนี้รายนี้จึงเป็นหนี้ที่ธนาคารเจ้าหนี้ผู้ขอรับชำระหนี้ยอมให้ลูกหนี้กระทำขึ้นเมื่อธนาคารเจ้าหนี้ได้รู้ถึงการที่ลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัว ธนาคารเจ้าหนี้จึงไม่อาจขอรับชำระหนี้รายนี้ได้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483 มาตรา 94(2) ศาลล่างทั้งสองสั่งและพิพากษาคดีชอบแล้ว ฎีกาของเจ้าหนี้ผู้ขอรับชำระหนี้ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน