คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2786/2528

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยก่อสร้างโกดังและห้องครัวในที่พิพาทโดยการยินยอมของ ช. ซึ่งเป็นตัวแทนโจทก์และด้วยการรู้เห็นของโจทก์การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นละเมิดต่อโจทก์ โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกค่าเสียหาย โจทก์ขอให้บังคับจำเลยให้รื้อถอนโกดังและห้องครัวออกจากที่พิพาท เมื่อโกดังและห้องครัวตกเป็นสิทธิของกระทรวงการคลัง โจทก์ไม่มีสิทธิบังคับให้จำเลยรื้อถอนที่โจทก์ขอให้บังคับจำเลยและบริวารออกไปจากที่พิพาทเนื่องจากจำเลยบุกรุกเข้าไปปลูกสร้างโกดังและห้องครัวเมื่อฟังได้ว่าจำเลยเข้าไปปลูกสร้างโดยการยินยอมของ ช.ซึ่งเป็นตัวแทนโจทก์โดยปริยายและด้วยการรู้เห็นของโจทก์ซึ่งไม่เป็นการทำละเมิดต่อโจทก์ โจทก์จึงไม่มีสิทธิขอให้บังคับจำเลยและบริวารออกไปจากที่พิพาท

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นผู้ครอบครองที่ดินที่ราชพัสดุ 1 แปลง โดยเช่าจากกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง จำเลยบุกรุกเข้าไปปลูกสร้างโกดังและห้องครัวในที่ดินดังกล่าวบางส่วน เป็นการละเมิดสิทธิของโจทก์ โจทก์บอกกล่าวให้จำเลยรื้อถอนโกดังและห้องครัว พร้อมทั้งบริวารออกจากที่ดิน แต่จำเลยเพิกเฉยการกระทำของจำเลยเป็นเหตุให้โจทก์ได้รับความเสียหายขอให้จำเลยรื้อถอนโกดังและห้องครัวออกจากที่พิพาท และชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์

จำเลยให้การว่า โจทก์มิได้เป็นผู้เช่าที่ดินราชพัสดุจากกระทรวงการคลัง สัญญาท้ายฟ้องเป็นสัญญาระหว่างกระทรวงการคลังซึ่งเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินแปลงดังกล่าวกับเทศบาลเมืองขอนแก่น โดยมีข้อสัญญาว่าเทศบาลเมืองขอนแก่นจะปลูกสร้างอาคารแล้วยกกรรมสิทธิ์ให้แก่กระทรวงการคลัง โจทก์ทำสัญญากับเทศบาลเมืองขอนแก่นรับปลูกสร้างอาคารและตลาดสด โดยโจทก์มีสิทธิเก็บเงินช่วยเหลือค่าก่อสร้างและค่าเช่าอาคารจากผู้อยู่อาศัยหรือผู้เช่า ส่วนที่ดินที่มิได้ปลูกสร้างอาคารและตลาดสดซึ่งเป็นที่ว่างเปล่าทั้งเทศบาลเมืองขอนแก่นและโจทก์หามีสิทธิประการใดไม่ จำเลยปลูกสร้างโกดังและห้องครัวในที่ดินแปลงดังกล่าวในส่วนซึ่งเป็นที่ว่างเปล่า จำเลยเข้าใจว่าที่ดินส่วนที่จำเลยปลูกสร้างโกดังนั้นโจทก์ได้สิทธิในการก่อสร้างแล้วให้เช่าเช่นเดียวกับอาคารพาณิชย์อื่น จำเลยจึงบอกนายเธียรชัยผู้รับมอบอำนาจจากโจทก์ขอปลูกสร้างโกดังในที่ว่างเปล่ายกกรรมสิทธิ์ให้กระทรวงการคลัง โดยจำเลยขอเพียงสิทธิเช่าโกดังเท่านั้นนายเธียรชัยไม่ขัดข้อง จำเลยเริ่มปลูกสร้าง ต่อมาเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองขอนแก่นสั่งให้ระงับการปลูกสร้างเพราะจำเลยยังมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ นายชาญผู้รับมอบอำนาจจากโจทก์ด้วยอีกผู้หนึ่งทำหนังสือในนามของโจทก์ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นและเทศบาลเมืองขอนแก่นขอก่อสร้างโกดังในที่ดินส่วนที่ว่าง ในระหว่างรอการอนุมัติ จำเลยได้ก่อสร้างโกดังจนเสร็จราชพัสดุจังหวัดขอนแก่นและคณะกรรมการรับมอบโกดังเป็นกรรมสิทธิ์ของกระทรวงการคลัง หากฟังว่าโจทก์มีสิทธิในที่ดินส่วนที่จำเลยก่อสร้างโกดังและห้องครัวในฐานะผู้เช่าที่ดินจากกระทรวงการคลัง โจทก์ก็เสียหายไม่เกินเดือนละ 100 บาท จำเลยไม่อาจรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างและโกดังออกไปจากที่ดินได้ เพราะเป็นกรรมสิทธิ์ของกระทรวงการคลังแล้ว ฟ้องโจทก์ขาดอายุความ ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า การที่จำเลยก่อสร้างโกดังและห้องครัวในที่พิพาทไม่เป็นการทำละเมิดต่อโจทก์ โกดังและห้องครัวตกเป็นกรรมสิทธิ์ของกระทรวงการคลังแล้ว โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องบังคับให้จำเลยรื้อถอน พิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า การกระทำของจำเลยไม่เป็นละเมิด โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกค่าเสียหาย และจะบังคับให้จำเลยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของกระทรวงการคลังไม่ได้ พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า นายชาญเป็นตัวแทนโจทก์โดยปริยายในการเช่าที่ดินราชพัสดุตลอดจนการก่อสร้างอาคารและสิ่งปลูกสร้างในที่ดินแปลงดังกล่าวและในการให้เช่าช่วง จำเลยก่อสร้างโกดังและห้องครัวในที่พิพาทโดยการยินยอมของนายชาญและด้วยการรู้เห็นของโจทก์การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นการละเมิดต่อโจทก์ โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกค่าเสียหาย

ในข้อที่ว่า โจทก์มีสิทธิขอให้บังคับจำเลยให้รื้อถอนโกดังและห้องครัวออกจากที่พิพาทหรือไม่ เห็นว่าโจทก์และจำเลยต่างยอมรับว่าโกดังพิพาทรวมทั้งห้องครัวตกเป็นสิทธิของกระทรวงการคลัง โจทก์จึงไม่มีสิทธิขอให้บังคับจำเลยรื้อถอน และศาลฎีกาวินิจฉัยต่อไปว่าที่โจทก์ขอให้บังคับจำเลยและบริวารออกไปจากที่พิพาทเนื่องจากจำเลยบุกรุกเข้าไปปลูกสร้างโดยการยินยอมของนายชาญซึ่งเป็นตัวแทนโจทก์โดยปริยายและด้วยการรู้เห็นของโจทก์ซึ่งไม่เป็นการละเมิดต่อโจทก์ โจทก์จึงไม่มีสิทธิขอให้บังคับจำเลยและบริวารออกไปจากที่พิพาท

พิพากษายืน

Share