แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เงื่อนไขในการชำระราคาสินค้าตามสัญญาเลตเตอร์ออฟเครดิตที่จำเลยทำไว้กับสาขาโจทก์มีว่า ผู้ขายอาจเรียกเก็บเงินค่าสินค้าจากสาขาโจทก์หรือสำนักงานใหญ่ของโจทก์ หรือผู้ขายจะออกตั๋วแลกเงินเรียกเก็บเงินจากจำเลยโดยตรงก็ได้ดังนั้น การที่ผู้ขายออกตั๋วแลกเงินจำนวนเงินตามราคาสินค้าส่งมอบให้สำนักงานใหญ่ของโจทก์พร้อมด้วยเอกสารต่างๆ ครบถ้วนตามที่ระบุไว้ในสัญญาเลตเตอร์ออฟเครดิต และสำนักงานใหญ่ของโจทก์รับซื้อตั๋วแลกเงินและเอกสารดังกล่าวไว้โดยจ่ายเงินให้แก่ผู้ขายไป ย่อมถือได้ว่าผู้ขายได้เรียกเก็บเงินค่าสินค้าที่จำเลยสั่งซื้อจากสำนักงานใหญ่ของโจทก์และโจทก์ได้จ่ายเงินค่าสินค้าแทนจำเลยไปถูกต้องตามสัญญาเลตเตอร์ออฟเครดิตที่จำเลยทำไว้กับสาขาโจทก์แล้วจำเลยจึงมีหน้าที่ชำระเงินค่าสินค้าดังกล่าวแก่โจทก์
จำเลยขอแก้เงื่อนไขในเลตเตอร์ออฟเครดิตที่ทำไว้กับสาขาโจทก์ โจทก์ได้จัดการขอแก้ไขกับผู้ขายตามที่จำเลยต้องการแล้วแต่ผู้ขายไม่ยินยอม จึงไม่ใช่ความผิดของโจทก์จำเลยจะยกเป็นเหตุอ้างเพื่อปฏิเสธความรับผิดต่อโจทก์ไม่ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้ทำสัญญาเลตเตอร์ออฟเครดิตไว้กับสาขาโจทก์ที่กรุงเทพมหานคร โดยตกลงให้สาขาโจทก์รับรองการจ่ายเงินค่าซื้อสินค้าที่จำเลยสั่งซื้อจากผู้ขาย ต่อมาผู้ขายได้แจ้งและมอบเอกสารต่าง ๆ แสดงถึงการที่ได้ส่งสินค้าให้จำเลยแล้วให้แก่โจทก์พร้อมทั้งส่งตั๋วเรียกเก็บเงินจากโจทก์ ซึ่งโจทก์ได้จ่ายเงินให้ไปแล้ว แต่เมื่อโจทก์เรียกเก็บเงินจากจำเลย จำเลยไม่ยอมชำระ จึงขอให้พิพากษาบังคับจำเลยชำระเงินแก่โจทก์
จำเลยให้การปฏิเสธความรับผิดหลายประการ รวมทั้งต่อสู้คดีว่าโจทก์จ่ายเงินให้แก่ผู้ขายไปโดยผิดเงื่อนไขในสัญญา และโจทก์ไม่ได้จัดการแก้ไขเงื่อนไขในสัญญาตามที่จำเลยขอแก้ไข ทำให้จำเลยไม่ได้รับสินค้าตามที่สั่งซื้อ จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยร่วมกันชำระเงินแก่โจทก์ตามฟ้อง
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เงื่อนไขในการชำระราคาสินค้าตามสัญญาเลตเตอร์ออฟเครดิตที่จำเลยทำไว้กับสาขาโจทก์ที่กรุงเทพมหานครมี 2 ประการคือ ผู้ขายอาจเรียกเก็บค่าสินค้าจากสาขาโจทก์ที่กรุงเทพมหานครหรือจากสำนักงานใหญ่ของโจทก์ที่สิงคโปร์ได้ประการหนึ่ง หรือจะออกตั๋วแลกเงินเรียกเก็บจากจำเลยโดยตรงก็ได้อีกประการหนึ่ง ดังนั้น การที่ผู้ขายออกตั๋วแลกเงินจำนวนเงินตามราคาสินค้าส่งมอบให้สำนักงานใหญ่ของโจทก์พร้อมด้วยเอกสารต่าง ๆ ครบถ้วนตามที่ระบุไว้ในเลตเตอร์ออฟเครดิต และสำนักงานใหญ่ของโจทก์รับซื้อตั๋วแลกเงินและเอกสารดังกล่าวไว้โดยจ่ายเงินให้แก่ผู้ขายไป ย่อมถือได้ว่าผู้ขายได้เรียกเก็บเงินค่าสินค้าที่จำเลยสั่งซื้อจากสำนักงานใหญ่ของโจทก์ได้จ่ายเงินค่าสินค้าแทนจำเลยไปถูกต้องตามสัญญาเลตเตอร์ออฟเครดิตที่จำเลยทำไว้กับสาขาโจทก์แล้ว เมื่อสำนักงานใหญ่ของโจทก์ส่งตั๋วแลกเงินและเอกสารต่าง ๆ เหล่านั้นมาให้สาขาโจทก์เพื่อเรียกเก็บเงินจากจำเลย จำเลยจึงมีหน้าที่ต้องชำระ จะปฏิเสธความรับผิดไม่ได้
จำเลยขอแก้ไขเงื่อนไขในเลตเตอร์ออฟเครดิตเป็นว่าจำเลยจะต้องไปตรวจรับสินค้าก่อนสินค้าลงเรือ โจทก์ได้จัดการขอแก้ไขไปตามที่จำเลยต้องการแล้วแต่ทางผู้ขายไม่ยินยอมให้แก้ ฉะนั้น การที่จำเลยไม่ได้ไปลงชื่อตรวจรับสินค้าจึงไม่ใช่ความผิดของโจทก์ จำเลยจึงต้องรับผิดใช้หนี้แก่โจทก์ตามเลตเตอร์ออฟเครดิต
สำหรับอัตราดอกเบี้ย ศาลฎีกาเห็นว่าโจทก์นำสืบไม่ได้ความแจ้งชัดว่า ตามปกติโจทก์คิดดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเท่าใด จึงให้ดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 7
พิพากษาแก้เฉพาะเรื่องอัตราดอกเบี้ยเป็นว่าให้จำเลยเสียดอกเบี้ยให้แก่โจทก์ในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี