แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
แม้ในคำฟ้องและหมายเรียกจะระบุว่าจำเลยชื่อนางสุดจารีย์ โลกะวิทย์ โดยจำเลยชื่อนางสุจารีโลกะวิทย์ ก็ไม่ทำให้คำฟ้องของโจทก์เสียไป เพราะเป็นเพียงการสะกดการันต์ผิดพลาดเล็กน้อย และที่บ้านจำเลยไม่มีบุคคลอื่นที่มีชื่อว่านางสุดจารีย์อันจะทำให้เข้าใจผิดไปได้ และปรากฏด้วยว่าการที่จำเลยไม่ยื่นคำให้การเป็นเพราะจำเลยหาเหตุที่ฟ้องของโจทก์สะกดการันต์ชื่อจำเลยไม่ถูกต้องการที่จำเลยไม่ยื่นคำให้การภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้จึงถือว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การโดยจงใจ เมื่อปรากฏต่อมาว่าเจ้าพนักงานศาลได้ปิดหมายนัดกำหนดวันสืบพยานไว้ที่บ้านจำเลย จึงต้องถือว่าได้มีการส่งหมายกำหนดวันสืบพยานให้จำเลยทราบโดยชอบแล้วเช่นเดียวกัน การที่จำเลยไม่ มาศาลจึงถือว่าจำเลยขาดนัดพิจารณาโดยจงใจ ย่อมไม่มีเหตุที่จะขอให้พิจารณาใหม่ได้
ย่อยาว
กรณีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้บังคับเรียกเงินค่าจ้างออกแบบก่อสร้างต่อเติมอาคารจากจำเลยเป็นเงิน 34,720 บาทพร้อมดอกเบี้ย โดยโจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยชื่อ “นางสุดจารีย์ โลกะวิทย์” จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณาศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยใช้เงินตามฟ้อง โจทก์จึงดำเนินการบังคับคดี
จำเลยรับคำบังคับของศาลแล้วยื่นคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ อ้างว่าโจทก์ดำเนินคดีบกพร่อง ไม่ทราบชื่อจำเลยแน่นอนโดยระบุชื่อจำเลยในฟ้องว่าชื่อ “นางสุดจารีย์” ความจริงจำเลยชื่อ “สุจารี” เมื่อเจ้าพนักงานไปส่งหมายเรียกสำเนาฟ้อง สามีจำเลยจึงทำคำร้องขอคืนหมายเรียกสำเนาฟ้องต่อศาลส่วนหมายนัดกำหนดสืบพยานโจทก์ก็ไม่มีผู้ใดนำหมายไปปิดที่บ้านจำเลยแต่อย่างใด ทั้งจำเลยไม่เคยว่าจ้างโจทก์ให้ออกแบบก่อสร้างอาคารด้วย ขอให้ศาลไต่สวนคำร้องและสั่งพิจารณาใหม่
ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วสั่งยกคำร้อง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ศาลชั้นต้นทำการพิจารณาใหม่
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ในการส่งหมายเรียกให้จำเลยยื่นคำให้การตลอดจนหมายนัดแจ้งวันสืบพยานโจทก์ให้จำเลยทราบ โดยวิธีธรรมดาและโดยวิธีปิดหมายเจ้าพนักงานศาลไปส่งยังบ้านเลขที่ 57 อันเป็นภูมิลำเนาของจำเลยตามเอกสารหมาย ล.1 ทุกครั้ง แม้ในคำฟ้องและหมายเรียกจะระบุว่าจำเลยชื่อ นางสุดจารีย์ โลกะวิทย์ อันเป็นการผิดพลาดเพราะจำเลยชื่อ นางสุจารีโลกะวิทย์ ก็ตาม ก็ไม่ทำให้คำฟ้องของโจทก์ที่ฟ้องจำเลยเสียไป เพราะเป็นเพียงการสะกดการรันต์ผิดพลาดเล็กน้อย และในบ้านเลขที่ดังกล่าวไม่มีบุคคลอื่นที่ใช้ชื่อว่านางสุดจารีย์ โลกะวิทย์ อันจะทำให้จำเลยหรือสามีจำเลยเข้าใจผิดไปได้ นอกจากนี้ตามคำเบิกความของจำเลยชั้นไต่สวนคำร้องของจำเลยที่ว่า หากฟ้องโจทก์ระบุชื่อจำเลยถูกต้อง จำเลยก็จะยื่นคำให้การต่อสู้คดี ซึ่งแสดงอยู่ในตัวว่าจำเลยหาเหตุที่ฟ้องของโจทก์สะกดการันต์ชื่อจำเลยไม่ถูกต้อง จำเลยจึงไม่ยื่นคำให้การ หาใช่เป็นเพราะการส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องได้กระทำโดยไม่ชอบไม่ ส่วนที่จำเลยนำสืบว่าจำเลยไปต่างประเทศตั้งแต่วันที่ 12 สิงหาคม 2523 ถึงวันที่ 25 กันยายน 2523ไม่ทราบว่าถูกฟ้องนั้น ก็ปรากฏว่าเจ้าพนักงานศาลปิดหมายเรียกให้จำเลยยื่นคำให้การเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2523 จำเลยมีเวลายื่นคำให้การถึงวันที่ 29กันยายน 2523 ฉะนั้นการที่จำเลยไม่ยื่นคำให้การภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้จึงถือว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การโดยจงใจ ส่วนกำหนดวันสืบพยานโจทก์ก็ปรากฏว่าเจ้าพนักงานศาลปิดหมายนัดไว้ที่บ้านจำเลยและจำเลยไม่ได้นำสืบให้เห็นเป็นอย่างอื่น จึงต้องถือว่าได้มีการส่งหมายกำหนดวันนัดสืบพยานให้จำเลยทราบโดยชอบแล้วเช่นเดียวกัน การที่จำเลยไม่มาศาลจึงถือว่าจำเลยขาดนัดพิจารณาโดยจงใจ ไม่มีเหตุที่จะขอให้พิจารณาใหม่ได้
พิพากษากลับ ให้ยกคำร้องของจำเลย