คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 404/2526

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในกรณีที่มีการเลิกห้างหุ้นส่วนและอยู่ในระหว่าง ชำระบัญชีห้างหุ้นส่วนนั้น ผู้มีหน้าที่จัดการดำเนินงานแทนห้างหุ้นส่วนย่อมได้แก่ผู้ชำระบัญชี การนำเอาทรัพย์สินของห้างฯ ไปทำสัญญามอบหมายให้โจทก์ดูแลรักษาไว้ในระหว่างการชำระบัญชีเป็นอำนาจหน้าที่โดยเฉพาะของผู้ชำระบัญชีการที่ผู้ชำระบัญชีให้โจทก์และจำเลยโดยตัวแทนได้ร่วมลงชื่อในบันทึกการมอบทรัพย์สินของห้างฯ ให้โจทก์เป็นผู้ดูแลรักษาเป็นการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ชำระบัญชีด้วยความรอบคอบเพื่อให้หุ้นส่วนทุกคนได้มีส่วนรับรู้ในการมอบทรัพย์สินของห้างฯ ให้โจทก์ดูแลรักษา เป็นการป้องกันมิให้ผู้เป็นหุ้นส่วนเรียกร้องเอาผิดต่อผู้ชำระบัญชีเป็นส่วนตัว หากมีการเสียหายเกิดขึ้นในภายหลัง จึงหามีผลให้จำเลยตกอยู่ในฐานะเป็นคู่สัญญากับโจทก์ที่จะให้สิทธิแก่โจทก์ฟ้องเรียกร้องเอาค่าดูแลรักษาทรัพย์สินของห้างฯ จากจำเลยได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยและบรรดาหุ้นส่วนของห้างหุ้นส่วนจำกัดอุตสาหกรรมน้ำแข็งตราดได้ร่วมกันว่าจ้างโจทก์เป็นผู้ดูแลรักษาทรัพย์ของห้างฯ และโจทก์ตกลงรับจ้างดูแลรักษาทรัพย์เช่นที่โจทก์เคยปฏิบัติมาก่อนตามปกติในฐานะเป็นผู้จัดการโรงงานของห้างฯ ระหว่างดูแลรักษาทรัพย์โจทก์ได้เสียค่าใช้จ่ายในการดูแลทรัพย์ตามสัญญา และโจทก์มีสิทธิได้รับสินจ้างเท่ากับที่โจทก์ได้รับตามปกติในการดูแลรักษาทรัพย์ รวมเป็นเงินที่โจทก์มีสิทธิได้รับจากจำเลยกับพวกผู้ว่าจ้างจำนวน 396,018.40 บาท โจทก์ได้รับชำระหนี้จากผู้เป็นหุ้นส่วนคนอื่นแล้วคงเหลือเงินจำนวน 198,009.20 บาท ซึ่งจำเลยกับพวกมีหน้าที่ต้องร่วมกันชำระให้โจทก์ขอศาลพิพากษาบังคับให้จำเลยชำระเงินดังกล่าวพร้อมดอกเบี้ยให้แก่โจทก์

จำเลยให้การว่า จำเลยกับพวกไม่ได้ร่วมกันว่าจ้างโจทก์ดังฟ้อง ผู้มีอำนาจมอบให้โจทก์เป็นผู้ดูแลรักษาทรัพย์ของห้างฯ ได้แก่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในฐานะเป็นผู้ชำระบัญชีของห้างฯ โจทก์ไม่ได้รับรักษาทรัพย์ในฐานะส่วนตัวแต่ในฐานะเป็นผู้จัดการและลูกจ้างของห้างฯ ผู้เป็นหุ้นส่วนคนอื่นไม่ได้ชำระเงินค่าจ้างและค่าใช้จ่ายดังฟ้อง มูลหนี้ตามฟ้องเกิดภายหลังห้างฯ ถูกศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มิได้ตั้งให้โจทก์เป็นผู้ดูแลรักษาทรัพย์ของห้างฯ โจทก์ต้องห้ามมิให้รับชำระหนี้ได้ตามพระราชบัญญัติล้มละลายโจทก์เคยยื่นขอรับชำระหนี้จึงไม่มีสิทธิฟ้อง ฟ้องโจทก์ขาดอายุความ

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า แม้จำเลยซึ่งเป็นหุ้นส่วนคนหนึ่งของห้างฯ โดยตัวแทนจะได้ร่วมลงชื่อไว้ในบันทึกมอบให้โจทก์เป็นผู้ดูแลรักษาทรัพย์ของห้างฯ แต่ในกรณีที่มีการเลิกห้างหุ้นส่วนและอยู่ในระหว่างชำระบัญชีของห้างหุ้นส่วนนั้น ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1249บัญญัติให้ ถือว่าห้างหุ้นส่วนยังคงตั้งอยู่ตราบเท่าเวลาที่จำเป็นเพื่อการชำระบัญชี และประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1250 บัญญัติให้ผู้ชำระบัญชีมีหน้าที่ชำระสะสางการงานของห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทนั้นให้เสร็จไป กับจัดการใช้หนี้เงิน และแจกจำหน่ายสินทรัพย์ของห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทนั้น ดังนั้นกรณีตามฟ้องผู้ที่มีอำนาจดำเนินงานแทนห้างหุ้นส่วนในกรณีมีการตั้งผู้ชำระบัญชีย่อมได้แก่ผู้ชำระบัญชีซึ่งศาลมีคำสั่งแต่งตั้งการนำเอาทรัพย์สินของห้างฯ ไปทำสัญญามอบหมายให้โจทก์ดูแลรักษาไว้ในระหว่างชำระบัญชีแทนห้างฯ จึงเป็นอำนาจหน้าที่โดยเฉพาะของผู้ชำระบัญชี ถือได้ว่าผู้ชำระบัญชีเป็นคู่สัญญาว่าจ้างโจทก์โดยตรง กรณีที่ผู้ชำระบัญชีเรียกโจทก์จำเลยโดยตัวแทนให้ร่วมลงชื่อไว้ในบันทึกการมอบทรัพย์สินของห้างฯ ให้โจทก์เป็นผู้ดูแลรักษานั้น เป็นการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ชำระบัญชีด้วยความรอบคอบ เพื่อให้หุ้นส่วนทุกคนรวมทั้งจำเลยได้มีส่วนรับรู้ในการมอบทรัพย์สินของห้างฯ ให้โจทก์ดูแลรักษาเป็นการป้องกันมิให้ผู้เป็นหุ้นส่วนคนหนึ่งคนใดเรียกร้องเอาผิดต่อผู้ชำระบัญชีเป็นการส่วนตัว หากมีการเสียหายเกิดขึ้นจากการดูแลรักษาทรัพย์สินของโจทก์ในภายหลัง ฉะนั้นการที่จำเลยโดยตัวแทนได้ร่วมลงชื่อไว้ในบันทึกการรักษาทรัพย์สินจึงหามีผลให้จำเลยตกอยู่ในฐานะเป็นคู่สัญญากับโจทก์ที่จะให้สิทธิแก่โจทก์ฟ้องเรียกเอาค่าดูแลรักษาทรัพย์สินของห้างฯได้จากจำเลย

พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ

Share