แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
แม้จำเลยมิได้โต้แย้งคำสั่งศาลชั้นต้น ที่สั่งงดสืบพยานโจทก์จำเลยไว้ แต่เมื่อคดีมีประเด็นเกี่ยวกับอำนาจฟ้องของโจทก์ ศาลอุทธรณ์ย่อมยกขึ้นวินิจฉัยได้ โดยให้ศาลชั้นต้นสืบพยานในประเด็นดังกล่าว แล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์มีสิทธิครอบครองเป็นเจ้าของที่ดินหนึ่งแปลงได้แจ้งการครอบครองไว้แล้ว จำเลยทำหนังสือสัญญาเช่าที่ดินส่วนหนึ่งของโจทก์เพื่อปลูกบ้านอยู่อาศัย มีกำหนดหนึ่งปี ค่าเช่าปีละ 50 บาท จำเลยผิดสัญญา โจทก์จึงมอบอำนาจให้ทนายโจทก์บอกเลิกสัญญาเช่าแล้ว ขอให้บังคับจำเลยและบริวารรื้อถอนโรงเรือนและสิ่งปลูกสร้างออกไปจากที่ดินของโจทก์ห้ามจำเลยเกี่ยวข้อง และให้จำเลยใช้ค่าเสียหาย
จำเลยให้การว่า ที่ดินพิพาทเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน จำเลยทำสัญญาเช่าที่ดินพิพาทตามฟ้อง เพราะจำเลยหลงผิดเข้าใจว่าเป็นที่ดินของโจทก์ จำเลยได้บอกเลิกการเช่ากับโจทก์แล้ว สัญญาเช่าจึงไม่มีผลบังคับ
วันนัดชี้สองสถาน คู่ความแถลงรับข้อเท็จจริงกันบางข้อและโจทก์แถลงสละข้อหาเรื่องค่าเสียหาย ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานโจทก์จำเลย
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า ผู้ให้เช่าไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของทรัพย์ที่ให้เช่าเสมอไปผู้มีสิทธิครอบครองก็มีสิทธิให้เช่าได้ โจทก์มีสิทธิครอบครองที่ดินพิพาท มีสิทธินำที่ดินพิพาทให้จำเลยเช่าได้โจทก์จำเลยต่างบอกเลิกสัญญาเช่ากันแล้ว โจทก์ฟ้องขอให้บังคับขับไล่จำเลยได้ พิพากษาให้จำเลยและบริวารรื้อถอนโรงเรือนและสิ่งปลูกสร้างอื่น ๆ ออกไปจากที่ดินพิพาท ห้ามจำเลยเกี่ยวข้องต่อไป
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า คดีมีประเด็นจะต้องวินิจฉัยว่าที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์หรือเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินซึ่งพลเมืองใช้ร่วมกัน ถ้าที่ดินพิพาทเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน โจทก์ก็ไม่มีสิทธิให้จำเลยเช่า จะต้องฟังพยานหลักฐานโจทก์จำเลยในประเด็นนี้ก่อน พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นสืบพยานตามนัยที่กล่าว แล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี
โจทก์ฎีกาว่า คดีไม่มีประเด็นว่า ที่ดินพิพาทเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินหรือไม่ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยาน จำเลยไม่โต้แย้ง ย่อมไม่มีสิทธิอุทธรณ์ขอให้ทำการสืบพยานใหม่
ศาลฎีกาเห็นว่า คดีนี้มีประเด็นว่า ที่ดินพิพาทเป็นที่ดินที่โจทก์มีสิทธิครอบครองเป็นเจ้าของ หรือว่าเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน จึงต้องฟังข้อเท็จจริงในประเด็นข้อนี้ก่อนอื่น หากข้อเท็จจริงฟังได้ว่าที่พิพาทเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน โจทก์ก็ไม่มีสิทธิที่จะเอาที่ดินพิพาทไปให้จำเลยเช่า เพราะขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน แม้จำเลยมิได้โต้แย้งคำสั่งศาลชั้นต้นที่สั่งงดสืบพยานโจทก์จำเลยในข้อนี้ แต่เมื่อเป็นปัญหาเกี่ยวกับอำนาจฟ้องของโจทก์ เมื่อศาลอุทธรณ์เห็นสมควร ก็ยกปัญหาข้อนี้ซึ่งเป็นข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนขึ้นวินิจฉัยได้
พิพากษายืน