คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 745/2515

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยเป็นเจ้าพนักงานตำรวจได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาให้ใช้และเก็บรักษาปืนคาร์บิน แมกกาซีน และกระสุนปืน ซึ่งเป็นทรัพย์สินของทางราชการตำรวจเพื่อใช้ในการตรวจตราปราบปรามโจรผู้ร้าย จำเลยจึงเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ใช้และรักษาปืนคาร์บิน กระสุนปืน และแมกกาซีน ที่จำเลยได้รับมอบหมายจำเลยเบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147

ย่อยาว

คดี 2 สำนวนนี้ ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิจารณาพิพากษารวมกัน

สำนวนแรก โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นเจ้าพนักงานตำรวจได้รับมอบหมายให้ใช้และเก็บรักษาปืนคาร์บิน 1 กระบอก กระสุน 60 นัด และแมกกาซิน 4 อัน ซึ่งเป็นทรัพย์สินของทางราชการตำรวจ แล้วจำเลยเบียดบังทรัพย์ดังกล่าวแล้วนำไปมอบให้แก่คนร้ายโดยทุจริต ส่วนสำนวนหลัง โจทก์ฟ้องว่า จำเลยแจ้งความเท็จต่อพนักงานสอบสวนว่าได้มีคนร้ายลักเอาปืนดังกล่าวพร้อมด้วยกระสุน 30 นัดและแมกกาซินที่จำเลยครอบครองนั้นไป 2 อัน อันเป็นความเท็จ เพราะความจริงไม่มีความผิดเกิดขึ้นเลย จึงขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147, 137, 173

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามฟ้อง ให้ลงโทษตามมาตรา 147 ซึ่งเป็นกระทงหนักที่สุด จำคุก 8 ปี

จำเลยอุทธรณ์ทั้ง 2 สำนวน

ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงเช่นเดียวกับศาลชั้นต้น แต่ปรับข้อกฎหมายเป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 158 กระทงหนึ่ง และมาตรา 137 และ 173 อีกกระทงหนึ่ง ให้ลงโทษตามมาตรา 158 ซึ่งเป็นกระทงหนักที่สุด จำคุก 4 ปี

โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ส่วนจำเลยฎีกาว่า เมื่อฟังไม่ได้ว่าจำเลยไม่ได้ทำผิดตามมาตรา 147 แล้วก็ต้องยกฟ้อง จะลงโทษตามมาตรา 158 ไม่ได้

ศาลฎีกาได้พิเคราะห์แล้ว ปัญหาในชั้นฎีกามีเฉพาะว่า จำเลยมีความผิดตาม มาตรา 147 หรือมาตรา 158 และจะลงโทษจำเลยได้เพียงใดส่วนข้อหาแจ้งความเท็จนั้นจำเลยมิได้ฎีกา จึงเป็นอันยุติ สำหรับปัญหาที่ว่า จำเลยจะผิดตามมาตรา 147 หรือ 158 นั้น ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยเป็นเจ้าพนักงานตำรวจ ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาให้ใช้และเก็บรักษาปืนคาร์บิน แมกกาซิน และกระสุนปืน ซึ่งเป็นทรัพย์สินของทางราชการตำรวจเพื่อใช้ในการตรวจตราปราบปรามโจรผู้ร้าย จำเลยจึงเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ใช้และรักษาปืนคาร์บินแมกกาซิน และกระสุนปืน ที่จำเลยได้รับมอบหมายไปนั้น จำเลยไปแจ้งแก่พนักงานสอบสวนว่ามีคนร้ายลักปืนคาร์บิน แมกกาซินและกระสุนปืนดังกล่าวไป อันเป็นความเท็จ เพราะความจริงคนร้ายหาได้ลักไปไม่พฤติการณ์ทั้งนี้ย่อมชี้ให้เห็นเจตนาทุจริตของจำเลยอยู่ในตัว จำเลยจะขายปืนคาร์บิน แมกกาซิน และกระสุนปืนดังกล่าวให้แก่นายมะแกแรคนร้ายตามที่โจทก์อ้างหรือไม่ไม่สำคัญ เมื่อปืนคาร์บิน แมกกาซิน และกระสุนปืนดังกล่าวไปอยู่ในความครอบครองของนายมะแกแร จึงต้องนับว่าจำเลยเบียดบังปืนคาร์บิน แมกกาซิน และกระสุนปืนนั้นเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147

จึงพิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ เป็นว่า ให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 ให้จำคุกจำเลยมีกำหนด 8 ปี นอกจากที่แก้นี้ ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share