แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองฐานชิงทรัพย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 339 และ 340 ตรี มิได้บรรยายและขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 392 ทั้งการกระทำความผิดตามมาตรา 392 ไม่ใช่การกระทำอันรวมอยู่ในความผิดฐานชิงทรัพย์ จึงไม่อาจลงโทษจำเลยทั้งสองตามมาตรา 392 ได้.
ย่อยาว
คดีนี้โจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสองขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 91, 339 วรรคสอง, 340 ตรี, 371พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา 7, 8 ทวิ, 72, 72 ทวิ คืนหรือใช้ราคาบุหรี่กรองทิพย์และไฟแช็กยี่ห้อรอนสันแก่ผู้เสียหาย
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยที่ 1 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 335 จำคุก 3 ปี และจำเลยทั้งสองมีความผิดตามมาตรา 371 แต่ให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา 8 ทวิ, 72 ทวิ จำคุกคนละ 1 ปี กับจำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 392อีกกระทงหนึ่งให้จำคุกคนละ 1 เดือน เรียงกระทงลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 รวมโทษจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 4 ปี 1เดือน จำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 1 ปี 1 เดือน ให้จำเลยที่ 1 คืนหรือใช้ราคาบุหรี่กรองทิพย์และไฟแช็กยี่ห้อรอนสันรวมราคา 262บาท แก่ผู้เสียหาย
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์ขอให้ยกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้ว พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา (ขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น)
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่ 1 ได้ลักเอาบุหรี่และไฟแช็กของผู้เสียหายไป และฟังไม่ได้ว่าจำเลยทั้งสองพาอาวุธปืนไปจี้ขู่เข็ญผู้เสียหาย ส่วนที่โจทก์ขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 392 ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นด้วยนั้น เห็นว่าฟ้องโจทก์มิได้บรรยายถึงการกระทำอันเป็นความผิดและมิได้ขอให้ลงโทษจำเลยตามบทกฎหมายดังกล่าวแต่อย่างใด ทั้งไม่ใช่การกระทำอันรวมอยู่ในความผิดฐานชิงทรัพย์ ดังที่โจทก์ฎีกา จึงไม่อาจลงโทษจำเลยทั้งสองในความผิดฐานนี้ได้ ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์ชอบแล้ว ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน.