คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2018/2530

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ผู้มีสิทธิไถ่ถอนการขายฝากย่อมเป็นไปตาม ป.พ.พ. มาตรา 497ได้แก่ ผู้ขายเดิม หรือทายาทผู้ขายเดิม ผู้รับโอนสิทธินั้นหรือบุคคลซึ่งในสัญญายอมไว้โดยเฉพาะ ว่าให้เป็นผู้ไถ่ได้ กฎหมายกำหนดตัวผู้มีสิทธิไถ่ทรัพย์สินไว้โดยเฉพาะ เจาะจงแล้ว แม้โจทก์จะเป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของผู้ขายฝากหรือไม่ก็ตามหามีสิทธิไถ่ถอนที่ดินพิพาทไม่.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นภริยาของจำเลยที่ 2 มาตั้งแต่ พ.ศ. 2475ที่ดินพิพาทสองแปลงเป็นสินสมรสระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 2ทำสัญญาขายฝากที่ดินดังกล่าวให้แก่จำเลยที่ 1 มีกำหนดเวลา 2 ปีวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2521 จำเลยที่ 2 จะขอไถ่ที่ดินที่ขายฝากแล้วขายฝากแก่จำเลยที่ 1 ใหม่อีก โดยเพิ่มเงิน โจทก์จึงได้ไปอายัดไว้เจ้าพนักงานที่ดินสั่งให้ดจทก์ดำเนินคดีทางศาล โจทก์ได้ยื่นฟ้องจำเลยต่อศาลแพ่ง ขอให้ลงชื่อโจทก์เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ร่วมในโฉนดที่ดินทั้งสองแปลงนั้นโจทก์จึงเป็นผู้มีส่วนได้เสียในที่ดินดังกล่าวและมีสิทธิไถ่ถอนการขายฝากได้ เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2521 จำเลยที่ 2 ได้ยื่นคำขอจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมต่อเจ้าพนักงานที่ดินโดยขอปลดเงื่อนไขการไถ่ถอน ยอมให้ที่ดินทั้งสองแปลงหลุดเป็นสิทธิแก่จำเลยที่ 1 อันเป็นการกลั่นแกล้งโจทก์ โจทก์ได้ขอไถ่ที่ดินทั้งสองแปลงจากจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 ไม่ยอมให้ไถ่ ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองยอมให้โจทก์ไถ่ที่ดินดังกล่าวด้วย
จำเลยที่ 1 ให้การว่า โจทก์และจำเลยที่ 2 มิได้เป็นสามีภริยากัน โจทก์มิใช่ผู้เสียหายไม่มีอำนาจฟ้อง และไม่มีสิทธิในการไถ่ถอนที่พิพาท
จำเลยที่ 2 ให้การว่า โจทก์กับจำเลยที่ 2 มิใช่สามีภริยากันเดิมโจทก์กับจำเลยที่ 2 ลักลอบได้เสียกันแล้ว โจทก์กับจำเลยที่ 2อยู่กินด้วยกันจนบัดนี้แต่มิได้จดทะเบียนสมรส ที่ดินพิพาทจึงมิใช่สินสมรส โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง
ระหว่างการพิจารณาของศาลชั้นต้น โจทก์ถึงแก่กรรม นายพิสิฐคงคาเขตร ทายาทของโจทก์ยื่นคำขอเข้าเป็นคู่ความแทนที่ ศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ค่าฤชาธรรมเนียม ให้เป็นพับ
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ค่าทนายความชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว ในปัญหาที่ว่าโจทก์มีสิทธิไถ่ที่ดินพิพาทซึ่งจำเลยที่ 2 ขายฝากไว้แก่จำเลยที่ 1 หรือไม่นั้นเห็นว่า ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 497 บัญญัติว่าผู้ที่มีสิทธิในการไถ่ทรัพย์สินนั้น ได้แก่ ผู้ขายเดิมหรือทายาทของผู้ขายเดิม หรือผู้รับโอนสิทธินั้น หรือบุคคลซึ่งในสัญญายอมไว้โดยเฉพาะว่าให้เป็นผู้ไถ่ได้ เป็นการกำหนดตัวผู้มีสิทธิไถ่ทรัพย์สินไว้โดยเฉพาะเจาะจงแล้ว ดังนั้น โจทก์จะเป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของจำเลยที่ 2 ผู้ขายฝากหรือไม่ก็ตาม โจทก์ก็มิใช่บุคคลที่มีสิทธิในการไถ่ที่ดินพิพาทได้ตามที่กฎหมายบัญญัติไว้และโจทก์จะอ้างเหตุอื่นดังที่กล่าวมาในฎีกา เพื่อขอใช้สิทธิไถ่ที่ดินพิพาทก็หาเป็นเหตุให้โจทก์มีสิทธิไถ่ที่ดินพิพาทได้ไม่ โจทก์จึงไม่มีสิทธิไถ่ที่ดินพิพาทจากจำเลยที่ 1 ไม่จำต้องวินิจฉัยปัญหาอื่นตามฎีกาของโจทก์อีก ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาต้องกันมานั้นชอบแล้ว ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน ค่าทนายความชั้นฎีกาให้เป็นพับ.

Share