คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1747/2530

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ในวันที่ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานโจทก์เพราะโจทก์ไม่มาศาลนั้นเองทนายโจทก์ยื่นคำร้องว่า รถยนต์ขัดข้องระหว่างทางไม่สามารถแก้ไขให้ใช้การได้ ได้รีบว่าจ้างรถรับจ้างมาศาลแต่มาถึงศาลช้าไปประมาณ 15-20 นาที ขอให้ศาลยกเลิกคำสั่งและสืบพยานโจทก์ต่อไปคำร้องดังกล่าวพอถือได้ว่าโจทก์ได้โต้แย้งคำสั่งของศาลไว้แล้วโจทก์อุทธรณ์ฎีกาได้ ในวันนัดสืบพยานโจทก์ต่อ โจทก์และทนายรวมทั้งพยานโจทก์ไม่มาศาลตามนัด จำเลยแถลงขอให้ถือว่าโจทก์ไม่ติดใจสืบพยาน ศาลชั้นต้นเห็นว่า คำแถลงของจำเลยมีเหตุผล จึงให้งดสืบพยานโจทก์และให้นัดสืบพยานจำเลย วันเดียวกันทนายโจทก์ยื่นคำร้องว่า รถยนต์ขัดข้องระหว่างทางจึงมาถึงศาลช้า ไปประมาณ 15-20 นาที ขอให้ศาลยกเลิกคำสั่งและให้สืบพยานโจทก์ต่อไป ดังนี้ ศาลชั้นต้นต้องดำเนินการไต่สวนและมีคำสั่งคำร้อง ของ โจทก์ก่อน.

ย่อยาว

คดีนี้ศาลชั้นต้นสืบพยานโจทก์ปากหนึ่งยังไม่จบปาก ได้เลื่อนคดีไปให้ทนายจำเลยถามค้านในวันที่ 6 กรกฎาคม 2527 เวลา 9.00 นาฬิกาครั้นถึงวันนัดจำเลยและทนายจำเลยมาศาล แต่โจทก์และทนายโจทก์ไม่มาทนายจำเลยแถลงว่า พยานโจทก์ซึ่งจำเลยจะถามค้านวันนี้และทนายโจทก์ไม่มาศาลถือว่าโจทก์ไม่ติดใจสืบพยานขอให้นัดสืบพยานจำเลย ศาลชั้นต้นเห็นว่า คำแถลงของจำเลยมีเหตุผลจึงให้งดสืบพยานโจทก์และให้นัดสืบพยานจำเลยในวันที่ 13 สิงหาคม 2527 เวลา 9.00 นาฬิกาในวันที่ 6 กรกฎาคม 2527 ทนายโจทก์ยื่นคำร้องต่อศาลว่า รถยนต์ขัดข้องระหว่างทางไม่สามารถแก้ไขให้ใช้การได้ ได้รีบว่าจ้างรถรับจ้างมาศาลแต่มาถึงศาลช้าไปประมาณ 15-20 นาที ทนายโจทก์ไม่มีเจตนาละเลยไม่มาศาลตามนัด ขอให้ศาลชั้นต้นยกเลิกคำสั่งและให้โจทก์สืบพยานโจทก์ต่อไป ศาลชั้นต้นนัดไต่สวนคำร้องของทนายโจทก์ในวันที่ 3 สิงหาคม 2527 เวลา 13.30 น. จำเลยแถลงคัดค้านขอให้ยกคำร้องของโจทก์ ครั้นถึงวันนัดทนายโจทก์และทนายจำเลยมาศาลศาลชั้นต้นเห็นว่าการที่ศาลสั่งให้ไต่สวนคำร้องของโจทก์นั้นยังไม่ถูกต้อง จึงให้เพิกถอนคำสั่งที่นัดไต่สวนนั้นเสียและให้นัดสืบพยานจำเลย เมื่อสืบพยานจำเลยแล้ว ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์ค่าฤชาธรรมเนียมและค่าทนายความให้เป็นพับไป
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำสั่งศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นไต่สวนและมีคำสั่งคำร้องของโจทก์ ฉบับลงวันที่ 6 กรกฎาคม 2527 แล้วให้พิจารณาพิพากษาใหม่ตามรูปคดี ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้ศาลชั้นต้นรวมสั่งเมื่อมีคำพิพากษา
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาพิพากษาว่า “คำร้องของโจทก์ฉบับลงวันที่ 6 กรกฎาคม 2527นั้น ได้ชี้แจงเหตุผลในการที่โจทก์มีความจำเป็นที่มาศาลไม่ได้และขอให้ศาลยกเลิกคำสั่งงดสืบพยานโจทก์ พอถือได้ว่า โจทก์ได้โต้แย้งคำสั่งนั้นไว้แล้ว จึงอุทธรณ์ฎีกาได้และโดยที่จำเลยมิได้ยอมรับข้อเท็จจริงตามคำร้องของโจทก์ ศาลชั้นต้นจึงจะต้องดำเนินการไต่สวนและมีคำสั่งคำร้องดังกล่าว ตามความในมาตรา 21 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง จะงดเสียไม่ไต่สวนและมีคำสั่งหาได้ไม่ที่ศาลอุทธรณ์สั่งให้ศาลชั้นต้นไต่สวนและมีคำสั่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 243(2) นั้นชอบแล้วศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ.

Share