คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4570/2532

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ตามมาตรา 19 แห่งพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 บัญญัติไว้ว่า สมาชิกภาพแห่งสภาเทศบาลย่อมสิ้นสุดลงเมื่อผู้นั้นมีลักษณะต้องห้ามสำหรับผู้สมัครรับเลือกตั้ง อันรวมถึงการเป็นภิกษุด้วย ซึ่งหมายความถึงผู้ได้รับเลือกตั้งจนเข้าดำรงตำแหน่งหน้าที่สมาชิกสภาเทศบาลโดยสมบูรณ์แล้วจะต้องพ้นจากตำแหน่งหน้าที่สภาเทศบาลนั้นทันทีที่ได้อุปสมบทเป็นภิกษุโดยไม่คำนึงถึงว่าจะเป็นเพียงชั่วคราวแล้วลาสิกขาหรือไม่ก็ตาม กฎหมายหาได้ห้ามการเป็นภิกษุเฉพาะแต่ในวันเลือกตั้งหรือสมัครรับเลือกตั้งไม่ผู้คัดค้านจึงพ้นจากสมาชิกภาพแห่งสภาเทศบาลตำบลท่าเรือตั้งแต่วันเป็นภิกษุโดยผลแห่งกฎหมายดังกล่าว พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล พ.ศ. 2482มาตรา 57 อยู่ในหมวดที่ว่าด้วยการคัดค้านการเลือกตั้ง เป็นเรื่องที่กฎหมายให้ผู้เลือกตั้งไม่น้อยกว่าสิบคน หรือผู้สมัครคนใดคนหนึ่งมีสิทธิร้องขอให้ศาลมีคำสั่งว่าบุคคลผู้หนึ่งผู้ใดมิได้รับ เลือกตั้งโดยชอบ ผู้ใดได้รับเลือกตั้งโดยชอบ หรือไม่มีบุคคลผู้หนึ่งผู้ใดได้รับเลือกตั้งโดยชอบ ซึ่งจะต้องยื่นคำร้องต่อศาลภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่เทศบาลประกาศผลของการเลือกตั้ง บทบัญญัติดังกล่าวมิได้บังคับถึงกรณีที่เทศบาลยื่นคำร้องต่อศาลขอให้สั่งว่าสมาชิกภาพแห่งสภาเทศบาลของสมาชิกคนหนึ่งคนใดสิ้นสุดลงดังเช่นคดีนี้ คดีของผู้ร้องจึงไม่อยู่ภายใต้บังคับของบทกฎหมายดังกล่าวข้างต้น ผู้ร้องหาจำต้องยื่นคำร้องต่อศาลภายใน 15 วัน นับตั้งแต่เทศบาลประกาศผลของการเลือกตั้งไม่.

ย่อยาว

ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า เมื่อเดือนกรกฎาคม 2528 ผู้คัดค้านได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาเทศบาลตำบลท่าเรือ อำเภอท่าเรือจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ครั้นวันที่ 16 มกราคม 2529 ผู้คัดค้านได้อุปสมบทเป็นภิกษุจำพรรษาที่วัดหลวงพ่อเขียว ตำบลสำพะเนียงอำเภอบ้านแพรก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และได้ลาสิกขาเมื่อวันที่21 ธันวาคม 2529 สมาชิกภาพแห่งสภาเทศบาล ของผู้คัดค้านย่อมสิ้นสุดลง ตามพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 มาตรา 19(4)พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล พ.ศ. 2482 มาตรา 18(3),20(5) พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล (ฉบับที่ 8)พ.ศ. 2523 มาตรา 12 ขอให้ศาลมีคำสั่งว่า สมาชิกภาพแห่งสภาเทศบาลของผู้คัดค้านได้สิ้นสุดลงแล้ว
ผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้านว่า ผู้คัดค้านได้อุปสมบทเป็นภิกษุในพุทธศาสนาจริง แต่ได้ลาสิกขาแล้วเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2529 มิใช่วันที่ 21 ธันวาคม 2529 สมาชิกภาพแห่งสภาเทศบาลของผู้คัดค้านจึงไม่สิ้นสุดลงและคดีของผู้ร้องขาดอายุความ
วันนัดไต่สวนคำร้อง ผู้คัดค้านแถลงรับว่า ผู้คัดค้านลาสิกขา เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2529 จริงตามคำร้องของผู้ร้องศาลชั้นต้นเห็นว่า คดีพอวินิจฉัยได้ จึงให้งดไต่สวนและวินิจฉัยว่าคดีของผู้ร้องไม่ขาดอายุความ สมาชิกภาพแห่งสภาเทศบาลของผู้คัดค้านสิ้นสุดลง ตามพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496มาตรา 19(4) ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติเทศบาล (ฉบับที่ 3)พ.ศ. 2499 มาตรา 6 ประกอบด้วย พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล พ.ศ. 2482 มาตรา 21 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล (ฉบับที่ 8)พ.ศ. 2523 มาตรา 16 มีคำสั่งว่า สมาชิกภาพแห่งสภาเทศบาลตำบลท่าเรือของผู้คัดค้านได้สิ้นสุดลงแล้ว ให้ผู้คัดค้านพ้นจากสมาชิกภาพแห่งสภาเทศบาลตำบลท่าเรือ
ผู้คัดค้านอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้คัดค้านฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงตามคำร้องและคำคัดค้านโดยคู่ความมิได้โต้เถียงกันว่า ผู้คัดค้านได้รับเลือกตั้งให้เป็นสมาชิกสภาเทศบาลตำบลท่าเรือเมื่อเดือนกรกฎาคม 2528 ครั้นวันที่ 16มกราคม 2529 ผู้คัดค้านได้อุปสมบทเป็นภิกษุและลาสิกขาเมื่อวันที่21 ธันวาคม 2529 และวินิจฉัยว่า
“ปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยตามฎีกาของผู้คัดค้านข้อแรกมีว่าการที่ผู้คัดค้านอุปสมบทเป็นภิกษุ ทำให้สมาชิกภาพแห่งสภาเทศบาลของผู้คัดค้านสิ้นสุดลงหรือไม่ผู้คัดค้านฎีกาว่ากฎหมายห้ามไม่ให้ภิกษุใช้สิทธิเลือกตั้งหรือสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาเทศบาลเท่านั้น แต่ผู้คัดค้านได้อุปสมบทภายหลังได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาเทศบาลและได้ลาสิกขาแล้ว สมาชิกภาพของผู้คัดค้านจึงไม่สิ้นสุดลง พิเคราะห์แล้ว พระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 มาตรา 19ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติเทศบาล (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2499มาตรา 6 บัญญัติว่า
“มาตรา 19 สมาชิกภาพแห่งสภาเทศบาลย่อมสิ้นสุดลงเมื่อ
————–
(4) ขาดคุณสมบัติ หรือมีลักษณะต้องห้ามสำหรับผู้สมัครรับเลือกตั้งตามที่บัญญัติไว้ในกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล
ส่วนลักษณะต้องห้ามสำหรับผู้สมัครรับเลือกตั้งมีบัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล พ.ศ. 2482 มาตรา 21ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล(ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2523 มาตรา 16 ว่า
“มาตรา 21 ผู้มีลักษณะดังต่อไปนี้ เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง คือ
—————-
(8) เป็นบุคคลผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิเลือกตั้งตามมาตรา 18(1)(2)(3) หรือ (5)
—————-
มาตรา 18(3) บัญญัติว่า “——
(3) เป็นภิกษุ สามเณร นักพรตหรือนักบวช
—————”
ศาลฎีกาเห็นว่า ตามมาตรา 19 แห่งพระราชบัญญัติเทศบาล ข้างต้นบัญญัติไว้ว่า สมาชิกภาพแห่งสภาเทศบาลย่อมสิ้นสุดลง เมื่อผู้นั้นมีลักษณะต้องห้ามสำหรับผู้สมัครรับเลือกตั้งอันรวมถึงการเป็นภิกษุด้วย ซึ่งหมายความถึงผู้ได้รับเลือกตั้งจนเข้าดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาเทศบาลโดยสมบูรณ์แล้ว จะต้องพ้นจากตำแหน่งหน้าที่สมาชิกสภาเทศบาลนั้นทันทีที่ได้อุปสมบทเป็นภิกษุโดยไม่คำนึงถึงว่าจะเป็นเพียงชั่วคราวแล้วลาสิกขาหรือไม่ก็ตาม กฎหมายหาได้ห้ามการเป็นภิกษุเฉพาะแต่ในวันเลือกตั้งหรือสมัครรับเลือกตั้งดังที่ผู้คัดค้านฎีกาไม่ ผู้คัดค้านจึงพ้นจากสมาชิกภาพแห่งสภาเทศบาลตำบลท่าเรือตั้งแต่วันเป็นภิกษุโดยผลแห่งกฎหมายดังกล่าวข้างต้นฎีกาของผู้คัดค้านข้อนี้ฟังไม่ขึ้น
คดีมีปัญหาตามฎีกาของผู้คัดค้านในข้อต่อไปว่า คดีของผู้ร้องขาดอายุความตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล พ.ศ. 2482มาตรา 57 หรือไม่ ศาลฎีกาเห็นว่า บทกฎหมายดังกล่าวบัญญัติว่า”ภายในสิบห้าวันนับตั้งแต่เทศบาลประกาศผลของการเลือกตั้งผู้เลือกตั้งไม่น้อยกว่าสิบคนก็ดี ผู้สมัครคนใดก็ดี ในเขตเลือกตั้งใดเห็นว่าการเลือกตั้งในเขตนั้นเป็นไปโดยมิชอบ มีสิทธิยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นซึ่งเขตเลือกตั้งนั้นอยู่ในเขตอำนาจ เพื่อให้สั่งว่าบุคคลผู้หนึ่งผู้ใดมิได้รับเลือกตั้งโดยชอบ และหรือว่าผู้ใดได้รับเลือกตั้งโดยชอบ หรือว่าไม่มีบุคคลผู้หนึ่งผู้ใดได้รับเลือกตั้งโดยชอบ” และอยู่ในหมวดที่ว่าด้วยการคัดค้านการเลือกตั้งเป็นเรื่องที่กฎหมายให้ผู้เลือกตั้งไม่น้อยกว่าสิบคนหรือผู้สมัครคนใดคนหนึ่งมีสิทธิร้องขอให้ศาลมีคำสั่งว่าบุคคลผู้หนึ่งผู้ใดมิได้รับเลือกตั้งโดยชอบ ผู้ใดได้รับเลือกตั้งโดยชอบ หรือไม่มีบุคคลผู้หนึ่งผู้ใดได้รับเลือกตั้งโดยชอบ ซึ่งจะต้องยื่นคำร้องต่อศาลภายในสิบห้าวันนับตั้งแต่วันที่เทศบาลประกาศผลของการเลือกตั้ง บทบัญญัติดังกล่าวมิได้บังคับถึงกรณีที่เทศบาลยื่นคำร้องต่อศาลขอให้สั่งว่าสมาชิกภาพแห่งสภาเทศบาลของสมาชิกคนหนึ่งคนใดสิ้นสุดลงดังเช่นคดีนี้ คดีของผู้ร้องจึงไม่อยู่ภายใต้บังคับของบทกฎหมายดังกล่าวข้างต้น ผู้ร้องหาจำต้องยื่นคำร้องต่อศาลภายในสิบห้าวันนับตั้งแต่เทศบาลประกาศผลของการเลือกตั้งไม่ คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ชอบแล้ว ฎีกาของผู้คัดค้านในข้อนี้ฟังไม่ขึ้นเช่นกัน.

Share