คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1570/2532

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

คดีฉ้อโกงประชาชนข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่า ค. พวกของจำเลยหลอกลวงผู้เสียหายคนละวันเวลากัน แต่สถานที่เกิดเหตุเป็นที่เดียวกันหรือบริเวณเดียวกัน ดังนั้น ถือว่าจำเลยกับพวกได้หลอกลวงพวกผู้เสียหายในเวลาเดียวกัน แม้พวกผู้เสียหายหลงเชื่อมาชำระเงินให้ ค. หรือจำเลยในภายหลังในวันเวลาที่ไม่ตรงกันก็ไม่เป็นการกระทำผิดหลายกรรม เพราะการรับเงินเป็นผลที่เกิดจากการกระทำ หาใช่การกระทำขึ้นใหม่ไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฉ้อโกงประชาชนและฐานจัดหางานโดยฝ่าฝืนกฎหมายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 91, 341, 343พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 6)พ.ศ. 2526 มาตรา 4 พระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางานพ.ศ. 2528 มาตรา 30, 82 ให้จำเลยคืนเงินแก่ผู้เสียหายรวม 210,000บาท จำเลยให้การปฏิเสธ ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 วรรคแรก จำคุก 5 ปี ให้จำเลยคืนเงินแก่ผู้เสียหายทั้ง 6 คน คนละ 30,000 บาท คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก โจทก์อุทธรณ์ว่า จำเลยกระทำผิดหลายกรรมต่างกัน ขอให้ลงโทษจำเลยทุกกรรม และขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2528 ด้วย ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนโจทก์ฎีกา โดยอธิบดีกรมอัยการรับรองให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงสำหรับความผิดฐานฉ้อโกง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ตามคำเบิกความของผู้เสียหายทั้ง 7 คนฟังข้อเท็จจริงได้ว่า นายคำมาได้หลอกลวงพวกผู้เสียหายประมาณปลายเดือนสิงหาคม 2529 ต่อมาเมื่อพวกผู้เสียหายเดินทางมาถึงกรุงเทพมหานคร ในวันที่ 6 กันยายน 2529 นายคำมาได้จัดให้พักที่โรงแรมเจริญผล และในช่วงนี้นายคำมาได้แนะนำให้พวกผู้เสียหายรู้จักจำเลยโดยบอกว่าเป็นผู้ร่วมงานกับนายคำมาคดีไม่มีข้อเท็จจริงแน่นอนชัดเจนลงไปว่านายคำมาหลอกลวงผู้เสียหายคนละวันเวลากันและผู้เสียหายเกือบทุกคนก็เบิกความว่ามาพบนายคำมาที่บ้านนายสังข์ทอง สถานที่เกิดเหตุก็ฟังได้ว่าเป็นที่เดียวกันหรือบริเวณเดียวกัน รูปคดีจึงถือได้ว่านายคำมาได้หลอกลวงพวกผู้เสียหายในเวลาเดียวกัน เมื่อประชาชนหรือพวกผู้เสียหายหลงเชื่อมาชำระเงินแก่นายคำมาหรือแก่จำเลยในภายหลังในวันเวลาที่ไม่ตรงกันก็ไม่เป็นการกระทำผิดหลายกรรมเพราะการรับเงินนั้นเป็นผลที่เกิดจากการกระทำของนายคำมากับจำเลย ไม่ใช่เป็นการกระทำขึ้นใหม่ ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดกระทงเดียวจึงชอบแล้ว ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share