แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยใช้กุญแจไขล็อกคอรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายซึ่งธ. นำมาจอกไว้ที่หน้าร้านอาหาร แล้วได้นำนายหัวเทียนต่อเพื่อให้กระแสไฟผ่านได้ตลอดพร้อมที่จะสตาร์ตเครื่อง แต่ ธ.มาพบและขัดขวางเสียก่อนSจำเลยจึงไม่้สามารถนำรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายไปได้ การกระทำของจำเลยเป็นเพียงความผิดฐานพยายามลักทรัพย์.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335(1)(7), 83, 80 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2525 มาตรา 11
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335(1), (7), 83, 80 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2525 มาตรา 11จำคุก 3 ปี 4 เดือน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เชื่อว่านายธีระพงษ์เห็นและจำจำเลยได้ว่าเป็นคนร้ายที่ใช้กุญแจไขล็อกคอรถจักรยานยนต์คันเกิดเหตุ และนำสายหัวเทียนต่อเพื่อให้กระแสไฟผ่านได้ แล้วเตรียมสตาร์ตรถคันเกิดเหตุจริง ถ้าจำเลยเพียงแต่ใช้กุญแจปิดไฟเท่านั้น ก็ไม่น่าที่นายธีระพงษ์จะถึงกับแจ้งความเพื่อดำเนินคดีแก่จำเลยเพราะไม่เคยมีสาเหตุกันมาก่อน เนื่องจากพฤติการณ์ของจำเลยฟังได้ว่าเมื่อไขกุญแจล็อกคอรถแล้วได้นำสายหัวเทียนต่อเพื่อให้กระแสไฟผ่านได้ตลอดพร้อมที่จะสตาร์ตเครื่องและนำรถคันเกิดเหตุไปทันที ถ้านายะีระพงษืไม่เห็นและรียมาขัดขวางเสียก่อนการกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานพยายามลักทรัพย์
พิพากษากลับว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335วรรคสาม นอกจากนี้ให้บังคับงคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น.