คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2494/2531

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

การไฟฟ้านครหลวงมีฐานะเป็นรัฐวิสาหกิจ มีวัตถุประสงค์ในการจ่ายกระแสไฟฟ้าแก่ประชาชนอันมีลักษณะเป็นการสาธารณูปโภคและได้รับทุนในการดำเนินการจากงบประมาณแผ่นดิน จึงมิได้เป็นพ่อค้าตามความในมาตรา 165(1) แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์การฟ้องเรียกค่ากระแสไฟฟ้าดังกล่าว เมื่อมิได้มีกฎหมายบัญญัติเรื่องอายุความไว้เป็นอย่างอื่น ต้องถือว่ามีอายุความ 10 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยชำระค่ากระแสไฟฟ้าเป็นเงิน 71,668.77 บาทพร้อมด้วยดอกเบี้ย จำเลยให้การว่า จำเลยมิใช่ผู้ใช้กระแสไฟฟ้าตามเครื่องวัดหน่วยกระแสไฟฟ้าขนาดเดียวกับที่โจทก์ฟ้อง คดีโจทก์ขาดอายุความ ขอให้ยกฟ้อง ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินตามฟ้องพร้อมดอกเบี้ยนับแต่วันผิดนัด ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “สำหรับปัญหาเรื่องอายุความ จำเลยอ้างว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(1)เพราะโจทก์เป็นพ่อค้าเรียกเอาค่าที่ได้ส่งมอบกระแสไฟฟ้าให้แก่จำเลยซึ่งมีกำหนดอายุความสองปี และโจทก์ฟ้องคดีนี้เมื่อล่วงเลยกำหนดสองปีแล้ว ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์คดีนี้เป็นนิติบุคคลตามพระราชบัญญัติการไฟฟ้านครหลวง พ.ศ. 2501 มีฐานะเป็นรัฐวิสาหกิจ มีวัตถุประสงค์ในการจ่ายกระแสไฟฟ้าแก่ประชาชนในเขตกรุงเทพมหานครอันมีลักษณะเป็นการสาธารณูปโภค และได้รับทุนในการดำเนินการจากงบประมาณแผ่นดินโจทก์จึงมิได้เป็นพ่อค้าตามความในมาตรา 165(1) แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เมื่อมิได้มีกฎหมายบัญญัติเรื่องอายุความไว้เป็นอย่างอื่นก็ต้องถืออายุความสิบปีตามมาตรา 164ฟ้องโจทก์ไม่ขาดอายุความ ฎีกาจำเลยข้อนี้ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share