คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1848/2531

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อผู้ตายหย่ากับผู้คัดค้านได้ตกลงกันให้ผู้เยาว์ซึ่งเป็นบุตรอยู่ในความอุปการะของผู้ตายตามบันทึกหลังทะเบียนการหย่า ข้อตกลงนี้เป็นแต่เพียงการกำหนดภาระหน้าที่อุปการะเลี้ยงดูบุตรผู้เยาว์ระหว่างผู้ตายกับผู้คัดค้านตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1522 มิใช่ข้อตกลงในเรื่องอำนาจปกครองบุตรผู้เยาว์ตามมาตรา 1520 อำนาจปกครองบุตรผู้เยาว์ภายหลังการหย่ายังอยู่กับผู้ตายและผู้คัดค้านซึ่งเป็นบิดามารดา เมื่อบิดาตาย อำนาจปกครองบุตรผู้เยาว์ย่อมตกอยู่แก่มารดาตามมาตรา1566 ผู้คัดค้านจึงเป็นผู้แทนโดยชอบธรรมของผู้เยาว์และมีอำนาจยื่นคำร้องคัดค้านการขอตั้งผู้จัดการมรดกแทนผู้เยาว์ได้.

ย่อยาว

ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องเป็นมารดาของนายทวีศักดิ์ ผู้ตายขณะมีชีวิตอยู่ ผู้ตายจดทะเบียนสมรสกับนางลัชนา มีบุตรด้วยกัน 1 คน คือเด็กชายกีรติ ต่อมาผู้ตายกับนางลัชนาได้จดทะเบียนหย่ากัน ผู้ตายมีทรัพย์มรดกหลายรายการแต่มิได้ทำพินัยกรรมและตั้งผู้ใดเป็นผู้จัดการมรดก ขอให้ตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย
ผู้คัดค้านยื่นคำร้องคัดค้านว่า ผู้คัดค้านเป็นมารดาและผู้แทนโดยชอบธรรมของเด็กชายกีรติ ผู้เยาว์ซึ่งเกิดกับผู้ตาย ผู้ร้องยังปิดบังทรัพย์มรดกของผู้ตายไว้หลายอย่าง หากตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายจะทำให้ผู้เยาว์ได้รับความเสียหายขอให้ยกคำร้องและตั้งผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายต่อไป
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าผู้คัดค้านไม่มีอำนาจปกครองเด็กชายกีรติ ผู้เยาว์ จึงไม่มีอำนาจยื่นคำร้องคัดค้านแทนผู้เยาว์ ให้ยกคำร้องคัดค้านและตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย
ผู้คัดค้านอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้ว พิพากษาแก้เป็นว่าให้ตั้งผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายร่วมกับผู้ร้อง นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำสั่งของศาลชั้นต้น
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปัญหาในชั้นนี้เพียงว่า ผู้คัดค้านมีอำนาจร้องคัดค้านแทนเด็กชายกีรติ ผู้เยาว์หรือไม่ และสมควรตั้งผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกร่วมกับผู้ร้องหรือไม่
ตามปัญหาข้อแรก ข้อเท็จจริงได้ความจากทางนำสืบรับกันว่าเมื่อผู้ตายหย่ากับผู้คัดค้านได้ตกลงกันให้เด็กชายกีรติบุตรซึ่งเป็นผู้เยาว์อยู่ในความอุปการะของผู้ตายตามบันทึกหลังทะเบียนการหย่าเอกสารหมาย ร.2 ข้อตกลงนี้เป็นแต่เพียงการกำหนดภาระหน้าที่อุปการะเลี้ยงดูบุตรระหว่างผู้ตายกับผู้คัดค้านตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1522 เท่านั้น หาใช่ข้อตกลงในเรื่องอำนาจปกครองบุตรผู้เยาว์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1520 แต่อย่างใดไม่ อำนาจปกครองบุตรผู้เยาว์ภายหลังการหย่าจึงยังอยู่กับผู้ตายและผู้คัดค้านซึ่งเป็นบิดามารดา เมื่อบิดาตาย อำนาจปกครองบุตรผู้เยาว์ก็ตกอยู่กับมารดาหรือผู้คัดค้านตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1566 ดังนั้นผู้คัดค้านจึงเป็นผู้แทนโดยชอบธรรมของเด็กชายกีรติผู้เยาว์ และมีอำนาจยื่นคำร้องคัดค้านแทนเด็กชายกีรติผู้เยาว์ได้
ตามปัญหาข้อหลัง กรณีควรตั้งผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกร่วมกับผู้ร้องหรือไม่นั้น เห็นว่าผู้ร้องเป็นมารดาของผู้ตายมีส่วนได้เสียในกองมรดกของผู้ตายและเป็นย่าของผู้เยาว์บุตรผู้ตาย ส่วนผู้คัดค้านแม้จะจดทะเบียนหย่าขาดจากผู้ตายแล้วแต่ก็ยังเป็นผู้แทนโดยชอบธรรมของผู้เยาว์บุตรของผู้ตายอันเกิดกับตน และเป็นผู้อุปการะเลี้ยงดูผู้เยาว์อยู่ คงจะต้องระวังรักษาผลประโยชน์ของผู้เยาว์ไว้ให้ดีที่สุด ทั้งผู้คัดค้านก็เคยร่วมชีวิตกับผู้ตายมาก่อน ย่อมรู้เบาะแสช่วยสืบหามรดกของผู้ตายได้ถี่ถ้วนยิ่งขึ้น ประกอบกับผู้คัดค้านก็ไม่ใช่บุคคลต้องห้ามที่จะเป็นผู้จัดการมรดกไม่ได้ จึงสมควรตั้งผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายร่วมกับผู้ร้อง
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ.

Share