แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
จำเลยฎีกาคำพิพากษาศาลอุทธรณ์โดยขอให้ยกฟ้องโจทก์ แต่จำเลยเสียค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาในทุนทรัพย์เพียง 140,000 บาท และค่าขึ้นศาลอนาคตอีก 100 บาท ส่วนดอกเบี้ยในต้นเงิน 140,000 บาท ซึ่งต้องเสียค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาด้วยจำเลยหาได้เสียให้ถูกต้องไม่ ศาลฎีกามีคำสั่งให้ศาลชั้นต้นเรียกค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาที่ยังขาดจากจำเลยให้ครบถ้วน ศาลชั้นต้นได้มีหมายนัดแจ้งให้จำเลยนำเงินค่าขึ้นศาลชั้นฎีกามาวางศาลเพิ่ม แต่จำเลยไม่นำเงินค่าขึ้นศาลชั้นฎีกามาวางภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด จึงเป็นกรณีที่จำเลยเพิกเฉยไม่ดำเนินคดีภายในเวลาตามที่ศาลชั้นต้นกำหนด ถือได้ว่าจำเลยทิ้งฎีกาตาม ป.วิ.พ. มาตรา 174(2) ประกอบด้วยมาตรา 246 มาตรา 247.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า ค่าจ้างที่จำเลยค้างชำระ 140,000 บาท โจทก์ขอให้บังคับจำเลยชำระเงินจำนวนดังกล่าวพร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง คดีขาดอายุความแล้ว
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินค่าจ้างให้โจทก์ 140,000 บาทพร้อมดอกเบี้ย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีนี้จำเลยฎีกาคำพิพากษาศาลอุทธรณ์โดยขอให้ยกฟ้องโจทก์ แต่จำเลยเสียค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาในทุนทรัพย์เพียง 140,000 บาท และค่าขึ้นศาลอนาคตอีก 100 บาท ส่วนดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในต้นเงิน 140,000 บาท นับแต่วันที่25 มิถุนายน 2525 ถึงวันฟ้อง ซึ่งจะต้องเสียค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาด้วยตามตาราง 1(1)(ก) ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งจำเลยหาได้เสียให้ถูกต้องไม่ ศาลฎีกาจึงมีคำสั่งให้ศาลชั้นต้นเรียกค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาที่ยังขาดจากจำเลยให้ครบถ้วนภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด หากจำเลยไม่ปฏิบัติให้ส่งสำนวนพร้อมด้วยคำพิพากษาของศาลฎีกาคืนศาลฎีกาเพื่อดำเนินการต่อไป ปรากฏว่าศาลชั้นต้นได้มีหมายนัดแจ้งให้จำเลยนำเงินค่าขึ้นศาลชั้นฎีกามาวางศาลเพิ่ม แต่จำเลยไม่นำเงินค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาที่ยังขาดมาชำระต่อศาลชั้นต้นภายในกำหนด ศาลชั้นต้นจึงงดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา และส่งสำนวนพร้อมด้วยคำพิพากษาของศาลฎีกาคืนศาลฎีกาเพื่อดำเนินการต่อไป
พิเคราะห์แล้วเห็นว่า เมื่อจำเลยไม่นำเงินค่าขึ้นศาลชั้นฎีกามาชำระเพิ่มเติมให้ครบถ้วนภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด จึงเป็นกรณีที่จำเลยเพิกเฉยไม่ดำเนินคดีภายในเวลาตามที่ศาลชั้นต้นกำหนด ถือได้ว่าจำเลยทิ้งฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 174(2) ประกอบด้วย มาตรา 246, 247”
ให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความของศาลฎีกา.